วันจันทร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2554

โจวจวง เมืองแห่งน้ำ เวนิสแห่งจีน




                            โจวจวงเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ได้รับฉายาว่า "ยอดหมู่บ้านกลางน้ำแห่งเจียงหนาน" ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของมณฑลเจียงซู เขตเมืองคุนซาน ห่างจากเมืองซูโจวประมาณ 38 กิโลเมตร และอยู่ห่างจากมหานครเซี่ยงไฮ้ราว 60 กิโลเมตร เดิมมีชื่อว่า เจินเฟิงหลี่ มีพื้นที่ครอบคลุมเพียง 0.4 ตารางกิโลเมตร  เสน่ห์อันบริสุทธิ์ของโจวจวง ที่คงทนอยู่มานานหลายร้อยปี คือบ้านที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยราชวงศ์หมิง และ ราชวงศ์ชิง ประกอบด้วยอาคารและบ้านทรงจีนราว 100 หลัง และ สะพานหินราว 60 หลัง ซึ่งถูกอนุรักษ์ไว้จวบจนปัจจุบัน

                           โจวจวงเป็นหมู่บ้านกลางน้ำ เสมือนหนึ่งดอกบัวลอยอยู่บนผิวน้ำ มีลำคลอง 2 สายไหลจากตะวันตกถึงตะวันออก และทิศเหนือถึงทิศใต้  ร้านค้าและบ้านเรือนทั่วไปต่างสร้างขึ้นริมน้ำ ใต้หลังคามีลำคลอง และออกจากบ้านก็เห็นน้ำ มีสะพานหินรูปแบบต่างๆ เชื่อมร้านค้า ถนนหนทาง และบ้านเรือน ที่นี่เคยเป็น Location หนึ่งของภาพยนตร์เรื่อง Mission Impossible III






                      การนั่งเรือแจวชมวิวเป็นรายการที่พลาดไม่ได้สำหรับนักท่องเที่ยว เมื่อเลี้ยวผ่านโค้งน้ำหนึ่ง ๆ  ภาพโจงจวงก็จะเปลี่ยนไปภาพแล้วภาพเล่า เรือแจว ต้นหลิว และสะพานโค้ง ภาพลักษณ์ดังกล่าวเป็นเสน่ห์อันบริสุทธิ์ของโจวจวงที่คงทนอยู่มานานหลายร้อยปี











      
                              
                    การเดินทางไปโจวจวง ใช้บริการบัสทัวร์ อยู่ที่ Shanghai Sightseeing Bus Center ตรงสนามกีฬาเซี่ยงไฮ้ Shanghai Stadium โดยนั่งรถไฟใต้ดินสาย  4 ลงสถานี Shanghai Stadium แล้วเดินไปใต้บันไดหมายเลข 5 Gate 12


Tips

          มาเที่ยวโจวจวง ต้องไม่พลาดทานอาหารเลื่องชื่อของโจวจวงคือ ขาหมู ที่ชื่อว่า ว่านซานถี ซึ่งรสชาดของขาหมูว่านซานถีจะออกเค็ม ๆ และหวาน ๆ  ทำกันทั้งหมู่บ้านมาหลายร้อยปี จึงมั่นใจในความอร่อยสุดยอดค่ะ




(ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.oceansmile.com/)        

วันเสาร์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2554

พริกหวานผัดสี่สหาย



                              วันนี้คิดว่าจะทำอะไรเป็นเมนูอาหารเย็นดี เปิดตู้เย็นเจอพริกหวาน กับ ซูกินี จับมาผัดรวมกันเป็นเมนูใหม่ดีกว่า

เครื่องปรุง

1.พริกหวานหั่นชิ้นสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ  1/2 ลูก
2.ซูกินีหั่นเป็นท่อนสั้น ๆ  2 ลูก
3.เนื้อหมูหั่นชิ้นบาง ๆ นิดหน่อยพอ
4.เห็ดหอมแช่น้ำให้นิ่ม หั่นเป็นชิ้นบาง ๆ 4 ดอก ( น้ำที่แช่เห็ดหอมอย่าทิ้งนะคะ)
5.น้ำมันพืช กระเทียมสับ 1 กลีบ
6.ซอสหอยนางรมสูตรเข้มข้น 2 ช้อนโต๊ะ
7.เม็ดมะม่วงหิมพานต์อบหรือคั่ว 10 เม็ด



วิธีทำ


1.ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันพืช ใส่กระเทียมสับและหมูลงผัด



2.ใส่เห็ดหอม พริกหวานตามลงไป



3.ตามด้วยซูกินี และเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ผัดสักครู่จนซูกินีสุก



4.ใส่ซอสหอยนางรมสูตรเข้มข้น และน้ำที่แช่เห็ดหอมใส่ลงไปพอขลุกขลิก


5.พอทุกอย่างสุกและน้ำในกระทะเดือด รีบปิดเตาทันที เพื่อให้ซูกินีกรอบอร่อยค่ะ



6.เสร็จเรียบร้อยแล้วตักใส่จาน ตั้งโต๊ะได้เลยค่ะ เมนูนี้จะคล้ายเปรี้ยวหวาน แต่เราไม่ใส่ซอสมะเขือเทศ เราอยากได้รสชาดความอร่อยของซอสหอยนางรมและความหวานของพริกหวานกับซูกินีค่ะ



Tip
             พริกหวานมีรสชาดหวานไม่เผ็ด สามารถรับประทานสดในสลัดหรือนำมาผัดกับผักชนิดต่าง ๆ  มีคุณค่าทางวิตามิน เอ, บี 1, บี 2 และ ซี มีสารแคบไซซิน ช่วยยับยั้งอนุมูลอิสระ ลดความเสี่ยงของการเป็นโรคหลอดเลือด โรคต้อกระจก และโรคมะเร็ง



            
         

วันพฤหัสบดีที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ขนมจีน - แกงเขียวหวานไก่




                           ขนมจีน -แกงเขียวหวานไก่ เป็นของทานคู่กันมาแต่โบราณกาล เจอแกงเขียวหวานไก่ที่ไหน จะต้องเห็นขนมจีนอยู่เป็นคู่สร้างคู่สมด้วยทุกที่ มาทำแกงเขียวหวานไก่กันค่ะ

เครื่องปรุง
1.สันในไก่ ล้างสะอาดหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ 2 ขีด (ชอบหมู ใช้หมูสันนอกได้ค่ะ)
2.เลือดไก่ 1 ก้อน หั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมขนาดพอคำ (ถ้าไม่ชอบไม่ต้องใส่)
3.กะทิ 1/3 ถ้วย
4.น้ำพริกแกงเขียวหวาน 2 ช้อนโต๊ะ
5.มะเขือพวงเด็ดก้านออก มะเขือเปราะผ่า 4 ส่วน แช่ในน้ำเกลือ ใบโหระพาเด็ดเป็นใบ ๆ  ล้างสะอาด
6.แครอทหั่นชิ้นลูกเต๋า  ข้าวโพดต้มสุกแกะเป็นเม็ด เม็ดถั่วลันเตา ปริมาณตามชอบมากน้อย
7.น้ำตาลปี๊บ น้ำปลา น้ำต้มสุก 1 ถ้วย
8.เมล็ดผักชีคั่วป่น เมล็ดยี่หร่าคั่วป่น อย่างละนิดหน่อย





วิธีทำ


1.เคี่ยวกะทิให้แตกมัน ใส่น้ำพริกแกงลงผัดให้หอม เติมเมล็ดผักชีป่น ยี่หร่าป่น เพิ่มความหอมของเครื่องเทศ


2.ใส่เนื้อไก่ , หมู ลงผัดพอสุก



3.เติมน้ำต้มสุก แครอท เม็ดถั่วลันเตา ข้าวโพด



4.ใส่มะเขือพวง มะเขือเปราะ เลือดไก่ น้ำตาล น้ำปลา ชิมรสออกหวานนิดหน่อย



5.เมื่อมะเขือเริ่มนิ่มและสุก ใส่ใบโหระพา พอเดือด ปิดไฟเตาได้เลยค่ะ
6.จะทานกับขนมจีน หรือข้าวสวย เพิ่มเครื่องเคียง ไข่เค็ม หรือปลาสลิดทอดกรอบ ยิ่งอร่อยมากค่ะ


Tip

                 เมล็ดผักชี และเมล็ดยี่หร่า เครื่องเทศทั้ง 2 ชนิดนี้ นิยมใช้คู่กัน มีสรรพคุณกับกระเพาะอาหารเป็นอย่างยิ่ง โดยเมล็ดยี่หร่า จะช่วยขับลมในกระเพาะอาหารและลำใส้ ส่วนเมล็ดผักชี จะช่วยบำรุงกระเพาะอาหาร และช่วยเจริญอาหาร


                  มะเขือเปราะ ช่วยบรรเทาอาการโรคเบาหวาน ช่วยเรื่องระบบย่อยและขับถ่าย และช่วยบำรุงหัวใจอีกด้วย





วันอังคารที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ปีกไก่ทอดน้ำปลา สูตร JUNOBONGO







                           เคยพาไปทานไก่ดังเกาหลี  KYOCHON  มาแล้ว คราวนี้มาลองทำปีกไก่ทอดน้ำปลา สูตรของ JUNOBONGO กันบ้างนะคะ

เครื่องปรุง


1.ปีกกลางไก่ 1 กก.ล้างน้ำสะอาด ผ่าครึ่ง พักไว้ให้สะเด็ดน้ำ
2.น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
3.น้ำปลาอย่างดี 2 ช้อนโต๊ะ
4.ลูกผักชี 1 ช้อนชา
5.งาขาวคั่ว 1 ช้อนชา
6.ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ
7.ผงปรุงรสไก่ 1/2 ช้อนชา
8.น้ำมันพืช
9.ใบเตยล้างสะอาดหั่นเป็นท่อน ๆ 3 ใบ




วิธีทำ



1.ผสมเครื่องปรุงทั้งหมดคลุกเคล้ากับปีกไก่ หมักทิ้งไว้ในตู้เย็น 1/2 ชั่วโมง




2.ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันมากหน่อยเพื่อให้ท่วมเนื้อไก่ พอร้อนได้ที่ ใส่ปีกไก่ที่หมักไว้ลงทอด ใส่ใบเตยเพื่อให้หอม ทอดไฟร้อนจัด ๆ สัก 10 นาที หรี่ไฟลงเหลือกลาง ๆ ทอดต่อไปเรื่อย ๆ




3.ใช้ตะหลิวคนเป็นระยะ ๆ เพื่อให้สุกทั่วกัน ทอดจนสีเหลืองทอง




4.เมื่อเหลืองกรอบได้ที่ ตักขึ้นใส่กระชอนพักไว้สักครู่ เพื่อให้สะเด็ดน้ำมันที่ทอดค่ะ
5.ตักใส่จาน ทานกับข้าวสวยร้อน ๆ หรือข้าวเหนียว จิ้มแจ่ว กรอบนอกนุ่มใน อร่อยแซ่บหลาย



Tip  
                   
เวลาเลือกซื้อเนื้อไก่   ใช้นิ้วกดดู ถ้าเนื้อไก่ที่สดจะไม่มีรอยบุ๋มสีเขียวหรือช้ำ และต้องไม่มีเมือก กลิ่นไม่เหม็นเน่าเสีย เนื้อไม่เป็นสีเทาหรือซีดขาว


 ในการปรุงเนื้อไก่ ควรทำให้สุกจริงๆ    ไม่ควรรับประทานสุกๆ ดิบๆ เพื่อป้องกันเชื้อโรคต่างๆ รวมทั้งเชื้อไข้หวัดนกที่แพร่ระบาดด้วย

หากซื้อเนื้อไก่ที่มีการบรรจุแพ็ค   ดูความสด สะอาด และสังเกตป้ายบอกระยะเวลาในการบริโภคให้ดี ไม่หมดอายุ  บรรจุภัณฑ์ต้องมีความปลอดภัย

 เนื้อไก่ที่ซื้อมาแล้วต้องนำมาล้างให้สะอาด  พักให้สะเด็ดน้ำ หากไม่ใช้ประกอบอาหารทันที ต้องเก็บใส่ถุงเก็บอาหาร หรือกล่องพลาสติกที่มีฝาปิดแล้วแช่ในช่องแข็งในตู้เย็น



(ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.horapa.com/)

วันจันทร์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2554

หนำเลี้ยบผัดหมูสับ




                             เช้า ๆ วันหยุดชอบทานข้าวต้ม เนื่องจากเบาสบายท้อง แล้วยังมีกับข้าวข้าวต้มหลากหลายให้เลือกทานได้เยอะแยะ หนึ่งในเมนูอร่อยทานกับข้าวต้ม คือ หนำเลี้ยบผัดหมูสับ วันนี้มาลองทำเมนูนี้กันค่ะ

เครื่องปรุง


1.หนำเลี้ยบดองกระป๋อง 10 เม็ด

2.หมูสับ 3 ขีด
3.น้ำมันพืช น้ำมันงา
4.กระเทียมสับ 5 กลีบ
5.น้ำตาลทราย พริกไทป่น

วิธีทำ


1.ตั้งกระทะใส่น้ำมัน เจียวกระเทียมสับจนเหลืองหอม

2.ใส่หมูสับลงไป ใช้ทัพพียีให้ละเอียดเนื้อหมูไม่ติดกันเป็นก้อน

3.ระหว่างรอหมูสุก นำหนำเลี้ยบมาแกะเม็ดข้างในออก ใช้ช้อนบดเนื้อหนำเลี้ยบให้ละเอียด



4.ใส่หนำเลี้ยบบดลงในกระทะ คนคลุกเคล้าให้เข้ากัน เติมเครื่องปรุง น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา พริกไทป่นนิดหน่อย น้ำมันงา 1 ช้อนโต๊ะ เนื่องจากหนำเลี้ยบดองมีรสเค็มอยู่แล้ว ไม่ต้องใส่ความเค็มเพิ่ม แต่หากชอบใส่ซีอิ๊วขาวหรือเกลือป่นนิดหน่อยได้ค่ะ ชิมรสตามชอบ

5.ตักใส่ถ้วย ทานกับข้าวต้มร้อน ๆ ค่ะ  อร่อย ๆ


6.เพิ่มกับข้าวเครื่องเคียงอื่น ๆ เช่น ไข่เค็ม กุนเชียงทอด หมูหยอง ขิงดอง ไชโป๊ดอง กาน้าฉ่าย ฯลฯ


Tip

                 หนำเลี้ยบหรือสมอจีน มีประโยชน์ต่อสุขภาพในหลายๆ ด้าน ผลสดมีสรรพคุณต่อกระเพาะอาหารและปอด จะรักษาโรคไอเรื้อรัง โรคเลือดไหลในกระเพาะอาหาร โรคริดสีดวงทวาร โรคบิดและโรคลำไส้อักเสบ  ผลดองมีสรรพคุณบรรเทาอาการเจ็บคอ ทำให้ชุ่มคอได้ดีมาก 

  (ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.9bkk.com/)

       

วันเสาร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2554

1 วันใน Shanghai



                          Shanghai  หรือ ซางไห่ ในภาษาจีนกลาง เป็นมหานครที่ใหญ่ที่สุดของจีน และได้รับขนานนามว่า มหานครปารีสแห่งตะวันออก ซางไห่ แปลว่า ริมทะเล เนื่องจากเมืองนี้ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ หวงผู่ ปากอ่าวแม่น้ำแยงซีเจียง


                          การไปเที่ยว Shanghai จะต้องมีวีซ่าเข้าประเทศ โดยต้องไปขอทำวีซ่าที่สถานฑูตจีน ริมถนนรัชดาภิเษกซอย 3 อาคาร AA Building  เดินขึ้น ชั้น 2 (กรณีท่องเที่ยวเอง แต่ถ้าไปกับทัวร์ เขาจะดำเนินการให้เสร็จค่ะ) การขอวีซ่าจีน ไม่ยุ่งยากค่ะ ไปแต่เช้า กรอกใบคำขอเสร็จ พร้อมรูปถ่าย 1 ใบ กดบัตรคิว นั่งรอเมื่อถึงคิวแล้ว ใช้เวลาไม่กี่นาทีเสร็จเรียบร้อย โดยให้เลือกว่าจะรอรับเลยตอนบ่าย ซึ่งต้องมีค่าธรรมเนียมเพิ่ม หรือมารับอีก 4 วันถัดไปค่ะ รายละเอียดเพิ่มเติมดูได้จาก http://www.chinaembassy.or.th/th/

                          สายการบินที่ให้บริการบินตรงไป Shanghai ที่แนะนำคือ การบินไทย กับ China Eastern Airline ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมงครึ่ง ถึงสนามบิน Pudong ที่อยู่ห่างจากใจกลางเมือง Shanghai ประมาณ 40 กม. ที่นี่เราสามารถใช้บริการรถไฟแม่เหล็กความเร็วสูง หรือรถไฟหัวจรวด ( Maglev Train ) ความเร็ว 430 กม./ชม.ใช้เวลาเพียง 8 นาทีเข้าสู่ในเมืองค่ะ ค่าบริการ 50 หยวน


                         สถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจ


             The Bund  หรือถนนริมฝั่งแม่น้ำ ชาวจีนเรียก Waitan เป็นจุดชมวิวริมแม่น้ำหวงผู่ อาคารหลายหลาก style บนถนนเส้นนี้ประกอบด้วยสถาปัตยกรรมชั้นยอดของโลกเลยทีเดียว ในยามค่ำคืนจะเปิดไฟประดับสวยงามมาก เป็นที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวมากมายให้มาเยี่ยมชมและถ่ายภาพ อีกทั้งยังมีบริการเรือเฟอรี่นั่งชมความงามสองฝั่งแม่น้ำอีกด้วย  การเดินทางมาที่นี่ใช้บริการรถไฟใต้ดินสาย 2 ลงสถานี Midle Henan Rd.เดินเลียบแม่น้ำไปอีก 700 เมตร


อนุสรณ์วีรบุรุษในสวนหวงผู่ สวนสาธารณะแห่งแรกของเมือง
บรรยากาศยามค่ำคืนบน The Bund
ไฟประดับตกแต่งสวยงามมาก

                เมืองใหม่ผู่ตง Pudong  อยู่ฝั่งตรงข้าม The Bund  โดยนั่งเรือข้ามฟาก หรือใช้อุโมงค์ท่องเที่ยวใต้น้ำ  ที่นี่จะมีสถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิต คือ หอทีวีไข่มุกค่ะ



                           หอทีวีไข่มุก ตั้งอยู่ในเขตเศรษฐกิจใหม่ ผู่ตง  สูง 468 เมตร สูงเป็นอันดับ 3 ของโลก ภายในมีภัตตาคาร โรงแรม จุดขึ้นชมวิวทิวทัศน์ ลิฟท์ความเร็วสูง 7 เมตร/วินาที ยอดบนสุดเป็นเสาส่งสัญญาณทีวี 9 สถานี เสาสัญญาณวิทยุ 10 สถานี เปิดให้เข้าชมตั้งแต่เวลา 8.00 - 21.30 น.

                     เขตเมืองเก่าหนานชิ Nanshi  อยู่ทางฝั่งตะวันออกของเมือง เป็นย่านเมืองเก่าทางประวัติศาสตร์ สถานที่สำคัญที่น่าสนใจของที่นี่คือ สวนอี้หยวน (Yuyuan Garden)






                            เป็นสวนที่เก่าแก่ที่สุดใน Shanghai  ศิลปการจัดสวน style ราชวงศ์หมิง และราชวงศ์ชิง เริ่มก่อสร้างในปี คศ.1559 แล้วเสร็จภายใน 18 ปี ภายในเนื้อที่กว่า 20,000 ตารางเมตร พรั่งพร้อมไปด้วยศาลาเก๋งจีน บ่อน้ำ ลำธาร สวนหิน พันธุ์ไม้นานาชนิด เปิดให้ชมทุกวัน เวลา 8.30-17.00 น.การเดินทางโดยรถไฟใต้ดิน สาย 1 ลงสถานี Huang Rd. เดินเรื่อย ๆ ไปอีก 800 เมตร

                   คราวหน้าจะพาไป Zhouzhuang โจวจวง เมืองน้ำใกล้เซี่ยงไฮ้ค่ะ


Tip
                อาหารการกินที่ Shanghai อร่อยมากมายหลายหลาก เช่น เสี่ยวหลงเปา ที่ต้องเข้าคิวซื้อยาวเหยียด ชานมไข่มุกที่นี่ก็อร่อยสุดยอด  และพลาดไม่ได้กับเต้าหู้เหม็น อาหารยอดฮิตของที่นี่ ขายทั่วไปตามท้องถนนค่ะ


 
(ขอบคุณข้อมูลจาก หนีฮ่าวแดนมังกร-อภิชัย อัครปรีดี)


วันพุธที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2554

beard papa ' s



                               beard papa ' s  ร้านขนม franchise จาก ญี่ปุ่น มาเปิดสาขาใหม่ใกล้บ้านค่ะ จึงได้มีโอกาสลิ้มลองรสชาดความอร่อยที่ร่ำลือนัก
                              
                    beard papa's  ขนม cream puff  ก่อกำเนิดในปี คศ.1999 โดย Yuji Hirota  Mugino Co., Ltd. เมือง Osaka  ภายใต้  slogan  "Fresh natural cream puffs". มีสาขามากกว่า 500 แห่งทั่วโลก  สินค้าที่เชิดหน้าชูตา คือ  choux pastry ข้างในเป็นไส้  whipped cream custard รสต่าง ๆ เช่น  vanilla, chocolate,  green tea, strawberry และอีกมากมาย
              
                   จุดเด่นของ  beard papa ’s คือ การทำสด ๆ ให้ลูกค้าเห็นทุกขั้นตอนการทำ  ร้านที่เปิดให้บริการจะเหมือนยกครัวมาวางไว้หน้าร้าน ภายใต้กระจกใสรอบด้าน เราจะเห็นความสดของขนมจากการอบใหม่ ๆ แป้งที่กรอบ และไส้ที่หอมและเย็น ช่วยเสริมให้รสชาดของเอแคลร์เย็นเป็นที่ถูกใจยิ่ง

                        
                            พนักงานขายจะค่อย ๆ พิถีพิถันหยิบขนมแต่ละชิ้นใส่ถุงกระดาษบรรจุลงในกล่องสีเหลืองเพื่อให้เราจับทานได้ง่าย ๆ ไม่เลอะเทอะเปื้อนมือค่ะ



                              ชิ้นแรกนี้ cream puff  ไส้วานิลลา ที่ทางร้านบอกว่าใช้เม็ดวานิลลาจากเกาะมาดากัสก้าเลยทีเดียว ตัวขนมจะกรอบนอกนุ่มใน แป้งบาง ๆ ไส้ไม่หวานมาก ลองชิ้นแรกก็ติดใจแล้วค่ะ



                               ชิ้นต่อมา vanilla cookie puff  ไส้ custard นุ่มนวล แป้งหุ้มขนม กรอบอร่อยมาก ๆ



                     
                               ชิ้นที่ 3 vanilla paris brest  แป้ง puff สูตรจากฝรั่งเศส สอดไส้ครีมวานิลลาผสมวิปปิ้งครีม รูปร่างเหมือนโดนัท ชิ้นนี้อร่อยการันตีค่ะ



                                ชิ้นสุดท้ายที่ได้ลิ้มลอง คือ almond choco puff  ไส้ chocolate custard cream จาก  chocolates ของยุโรปที่คุณภาพดีที่สุด ตัวแป้งด้านนอกโรยด้วย almond ชิ้นเล็ก ๆ เพิ่มความอร่อยในขณะเคี้ยวขนมค่ะ

                                 ขนมแต่ละชิ้น ราคาตั้งแต่ 45 - 59 บาท ค่ะ เวลากัดเข้าปากต้องระวังหน่อยนะคะ เพราะไส้ครีมเธอเยอะมาก ๆ



Tip  ทานขนมหวานแต่พอควร เนื่องจากขนมแต่ละชิ้น อุดมด้วย ไขมัน ,Cholesterol และ Calories สูง
       จะทำให้อ้วนได้ง่ายมากค่ะ



(ขอบคุณข้อมูลจาก วิกิพีเดีย)