วันจันทร์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ท่องลอนดอนหลังโอลิมปิค 2012 (IX) -เยี่ยมบ้าน Jane Austen




                       วันที่ สี่ของการเดินทาง (อังคาร 16 ตุลาคม 2555)

                               บ่ายนี้ยังเดินเล่นอยู่ในเมือง Bath จะไปเยี่ยมชม Centre ของนักเขียนหญิงชื่อดัง Jane Austen


                              Jane Austen เป็นนักเขียนนวนิยายชาวอังกฤษที่เขียนเรื่องในแนว realism ที่มีผู้อ่านผลงานมากที่สุดในบรรดาวรรณกรรมภาษาอังกฤษทั้งหมด  เธอเริ่มเขียนนิยายตั้งแต่อายุไม่ถึงยี่สิบปี เล่มที่รู้จักกันมากที่สุดคือ Sense and sensibility  (ค.ศ. 1811) , Pride and Prejudice (ค.ศ. 1813)  และ Emma (ค.ศ. 1816) ผลงานของเธอถูกนำไปทำเป็นภาพยนตร์จนโด่งดัง

                             ในช่วงหนึ่งของชีวิตเธอเคยพักอาศัยอยู่ในเมือง Bath แห่งนี้ อาคารแบบ Townhouse 3 ชั้น เดินเข้าไปชั้นล่างของ Jane Austen Centre เป็นจุดจำหน่ายบัตร และห้องจำหน่ายของที่ระลึก  ค่าบัตรคนละ 6.70 ปอนด์ หลังจากนั้นเดินขึ้นบันไดเล็ก ๆ ไปนั่งรอที่ห้องรับรองเพื่อฟังบรรยายชีวประวัติของเธอ และเริ่มเดินชมห้องต่าง ๆ  วีดีโอเล่าเรื่องเกี่ยวกับ Jane Austen ห้องแสดงนิทรรศการแฟชั่นเสื้อผ้าสมัย Victoria  ชั้นที่ 3 เป็น The Regency Tea Room ที่มีชาและ Home made คุ๊กกี้แสนอร่อยลือชื่อ

                                           หนุ่มหล่อยืนคอยต้อนรับหน้า Centre


                            ออกมาเดินต่อไปยังถนน Gay Street ใจกลางเมือง พบกับ The Circus และ  The Royal Crescent  บนถนน Brock Street  จุดสนใจดึงดูดนักท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งของเมือง Bath ที่สร้างขึ้นเพื่อสื่อถึงความเป็นศูนย์กลางของดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ ซึ่งสร้างโดยนาย John Wood และลูกชาย

                                   The Circus อาคาร 3 ชั้น 3 ด้านเรียงเป็นวงกลม




                                       อาคารครึ่งวงกลม The Royal Crescent 

                             เดินชมเมืองและถ่ายรูปจนเย็น หมดเวลาสำหรับวันนี้ นั่งรถไฟกลับสถานี Paddington ลอนดอน


วันเสาร์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2555

Chilli Con Carne แปลงโฉม







                                Chilli Con Carne เป็นอาหารฝรั่งแถบอเมริกาใต้ หอมไปด้วยเครื่องเทศ พริกปาปริก้า มักจะทานกับข้าว ขนมปังพิต้า หรือแผ่น Taco ใครที่เล่นเกมส์ Sims จะมีทำเมนูนี้  ไปได้ผงปรุงสำเร็จทำ Chilli Con Carne จาก Supermarket ใกล้โรงแรมที่พักตอนไปเที่ยวลอนดอน ก็หยิบมาลองทำดู แต่แปลงโฉมออกมาแบบไทย ๆ ไม่ว่ากันนะ

เครื่องปรุง

เนื้อหรือหมูสับ  450  กรัม
หอมใหญ่สับ  1 ถ้วย
มะเขือเทศสับ 400 กรัม
น้ำเปล่า 1 ถ้วย
ถั่วแดงเม็ดเล็ก 400 กรัม
เต้าหู้ไข่สับหยาบ ๆ 2 หลอด(อันนี้นอกตำราจะไม่ใส่ก็ได้)
ผง Chilli Con Carne 1 ซอง (50 กรัม)
ผงออริกาโน
น้ำมันมะกอก 2 ชต

วิธีทำ

1.ตั้งกระทะใส่น้ำมันมะกอก ผัดหอมใหญ่สับจนเหลืองหอม
2.ใส่หมูหรือเนื้อสับลงผัดให้สุก ยีให้ไม่ติดเป็นก้อน
3.ละลายผงปรุง Chilli Con Carne กับน้ำเปล่า คนให้ละลาย เทลงในกระทะคลุกเคล้าให้ถ้วนทั่ว
4.ใส่มะเขือเทศและถั่วลงไป
5.เคี่ยวไปเรื่อย ๆ ใช้ไฟอ่อน หมั่นคนอย่าให้ไหม้หรือติดก้นกระทะ
6.ใส่เต้าหู้ไข่สับลงไป คนคลุกเคล้า และปิดไฟ
7.ตักใส่จาน โรยหน้าด้วยผงออริกาโน เสิร์ฟกับข้าวสวยร้อน ๆ ฝรั่งปนไทยอร่อยดี





ท่องลอนดอนหลังโอลิมปิค 2012 (VIII) Bathspa





                              วันที่สี่ของการเดินทาง (อังคาร 16 ตุลาคม 2555 )

                                    วันนี้ตั้งใจจะไปเมืองมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกปี 1987 นั่นคือ เมือง บาธ (Bath) แห่งหุบเขาเอวอน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของอังกฤษ ที่มีชื่อเสียงโด่งดังกับ พิพิธภัณฑ์น้ำแร่ร้อนโรมัน (Roman Baths Museum)

                                    เริ่มเดินทางจากสถานีรถไฟบนดิน Paddington ซื้อตั๋วไป - กลับ ลงสถานี Bathspa ค่าตั๋วคนละ 60 ปอนด์ นั่งรถไฟดี ๆ ของอังกฤษ ใช้เวลาเดินทางชั่วโมงครึ่งกว่า ๆ ถึงสถานี Bathspa ไม่ต้องกลัวหิวเพราะบนรถไฟมีบริการชากาแฟขนมปังเข็นมาขาย (กาแฟ Starbucks ซะด้วย แก้วละ 2 ปอนด์ ) 
                                    เดินออกจากสถานีรถไฟ เลี้ยวซ้ายตรงไปเรื่อย ๆ ชมวิวบ้านเมืองสองข้างทาง จนพบถนน Stall ให้เลี้ยวขวา จะพบกับ Hilight ของเมืองนี้ The Roman Baths  ร่องรอยประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 2000 ปี (ใครขี้เมื่อยไม่อยากเดิน ที่นี่มีรถบัสบริการ City Sight Seeing รอบเมือง ค่าตั๋วคนละ 13 ปอนด์ )


                                                               วิวเมือง Bath


                                                     ด้านหน้าทางเข้า Roman Baths

                                Roman Baths Museum แบ่งเป็น 2 ชั้น   ชั้นล่างเป็นบริเวณที่ตั้งของบ่อน้ำแร่ร้อนธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุด The Sacred Sping  น้ำที่ผุดขึ้นมาจากใต้ดินลึกถึง 3000 เมตรนำแร่ธาตุ 43 ชนิด ขึ้นมา อุณหภูมิความร้อนกว่า 40 องศา C


                                                               ต้นกำเนิดน้ำพุร้อน






                             ชั้นบนเป็นระเบียงเดินได้รอบ ประดับด้วยรูปปั้นเทพเจ้าของโรมัน มองลงมาเห็นบ่อน้ำด้านล่าง




                             ย่ำเดินดูทรากปรักหักพังโบราณ ของยุคสมัยโรมัน บนพื้นหินเก่าแก่ที่ ๆ ครั้งหนึ่งชาวโรมันเคยเดิน จนมาถึงบริเวณที่ให้นักท่องเที่ยวได้ชิมน้ำแร่ รับรสชาดแร่ธาตุต่าง ๆ ที่ช่วยบำบัดโรค 







                          พักทานอาหารกลางวันที่ The Pump Room สถานที่ที่เดิมเคยเป็นห้องอาหารและพักผ่อนหลังจากอาบน้ำของเหล่าชาวโรมัน นอกจากอาหาร ยังมี Afternoon Tea เคล้าเสียงเพลงบรรเลงเบา ๆ จากนักดนตรีขับกล่อมให้ฟังอีกด้วย

                                                         ภายใน The Pump Room






                               

                        ค่าเข้าชม The Roman Baths คนละ 12.25 ปอนด์ เปิดให้ชมทุกวัน ยกเว้น 25 - 26 ธันวาคม


วันศุกร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ท่องลอนดอนหลังโอลิมปิค 2012 ( VII )-Windsor Castle



             วันที่สามของการเดินทาง (จันทร์ 15 ตุลาคม 55) 

                  วันนี้นั่งรถไฟออกนอกลอนดอนกัน ไปชม Windsor Castle

                                                 Paddington National Rail
             
                    เริ่มจากออกเดินจากโรงแรม 400 เมตรไปยังสถานีรถไฟบนดิน Paddington National Rail ซื้อตั๋วรถไฟจากตู้ขายตั๋วอัตโนมัติ ชนิดไป - กลับ ไปลงสถานี Windsor & Eton Central Station ค่าตั๋วคนละ 9.50 ปอนด์ นั่งไป 35 นาที ต้องลงเปลี่ยนขบวนที่สถานี Slough เพื่อไปต่อ Windsor

                                                            สถานีรถไฟ  Slough


                          
                        ออกจากสถานี Windsor  จะผ่าน Windsor Royal Shopping ที่มีร้านค้าสองข้างทางมากมาย และที่จำหน่ายตั๋วเข้าชมวัง Windsor  ค่าตั๋วคนละ 17 ปอนด์ (บัตร London Pass ฟรี)



                      Windsor Castle สร้างขึ้นเมื่อปี คศ.1078 โดยกษัตริย์ William I และถูกไฟไหม้เสียหายหนักในปี คศ.1992 ต้องซ่อมแซมใหม่หมดกินเวลาถึง 6  ปี



                ผ่านประตูวังเข้าไปจะพบหอคอยกลม The Round Tower  ใช้เป็นป้อมปราการดูข้าศึกศัตรูได้ไกล ๆ


                ที่นี่จะมีพิธีเปลี่ยนเวรยามในเวลา  11.00 น. ให้เห็นทุกวันเลขคี่ ยกเว้นวันอาทิตย์





                                           The State Apartment สำหรับรับรองผู้นำนานาประเทศ


                                                  รูปปั้น Queen Victoria ด้านหน้าก่อนเข้าวัง

                         Windsor Castle ปัจจุบันใช้เป็นที่ประทับของ Queen และเปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่ 9.45 - 17.15 น.ในเดือน มีนาคม - ตุลาคม  ส่วนเดือนพฤศจิกายน - กุมภาพันธ์ ปิด 16.15 น.

                         นั่งรถไฟกลับมา สถานีรถไฟ Paddington ด้วยตั๋วเดิม บ่ายนี้จะไปเที่ยว Notting Hill กันต่อ

                        ใช้บริการรถไฟใต้ดินลงสถานี Notting Hill Gate มองป้ายบอกทางไปตลาด Portobello เดินไปเรื่อย ๆ แล้วเลี้ยวขวาเข้าถนน Pembridge เดินตรงยาวไปจนพบถนน Portobello เลี้ยวซ้ายเข้าไปจะเห็นสองข้างทางมีร้านขายของตกแต่งร้านน่ารัก ๆ มากมาย ใครเคยชมภาพยนตร์เรื่อง Notting Hill ในอดีตปี คศ. 1999 คงจะพอจำได้ พระเอกเป็นเจ้าของร้านหนังสือเล็ก ๆ พบรักนางเอกซึ่งเป็นดาราผู้โด่งดัง ใช้ Location ถนนเส้นนี้






                   



                   บนถนนเส้นนี้มีร้าน Bakery แบบอเมริกันชื่อดัง the hummingbird bakery ที่เปิดตัวตั้งแต่ปี 2004 และขายดีจนกระจายไปอีก 4- 5  สาขาทั่วลอนดอนกับ cubcakes อร่อยแสนสวยชิ้นละ 2 ปอนด์บรรจุลงในกล่องอย่างดีให้อยากซื้อไปลิ้มลอง  ร้านเสื้อผ้า รองเท้า ร้านของเก่าสะสม ซุ้มขายพืชผักผลไม้สด ๆ ให้ชวนซื้ออีกมากมาย มะเขือม่วงยักษ์ องุ่นแดง ผลไม้ตระกูลเบอรี่ทั้งหลาย สังเกตแม่ค้าฝรั่งจะดูสูงอายุกันเป็นส่วนใหญ่  ละลานตาสองข้างถนนยาวกว่า 300 เมตร  แต่ถ้าเป็นวันเสาร์จะเนืองแน่นมากทั้งผู้ขายและผู้ซื้อ เปิดตั้งแต่ 10.00 - 17.00 น.





                                               ร้าน Hummingbird bakery Notting Hill


                    เดินจนค่ำ มองหาอาหารมื้อเย็น หัวถนนมีร้านอาหารแบบ Pub เลยลองผลักประตูเข้าไปใช้บริการ สั่งอาหารทาน แทบทุกร้านที่ได้ลองเข้าไปทานที่นี่จะมีเมนูให้เลือกอาหารชุด Starter ต่อด้วยชุด Main ตบท้ายด้วยของหวาน



                    เริ่ม Starter ด้วย Soup of The Day ที่นี่ทำซุปได้อร่อย หอมเครื่องเทศ รสชาดถูกปากถูกใจมาก ทานกี่ครั้งไม่เบื่อและอร่อย ยิ่งอากาศหนาวมากยิ่งได้ซุปร้อน ๆ หายหนาวทีเดียว ต่อด้วยจาน Main เลือก Fish & Chip ต้นตำรับ กับ Salmon Ball น่าทานทั้งคู่




                 
                       อิ่มอร่อยนอนหลับฝันดีไปทั้งคืน



    

วันพุธที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ท่องลอนดอนหลังโอลิมปิค 2012 (VI)- Tower of London , City Cruises




              วันที่สองของการเดินทาง (อาทิตย์ 14 ตุลาคม 55) - ต่อ


                            บ่ายนี้จะไปชม Tower of London  ขึ้นรถไฟใต้ดินไปลงสถานี Tower Hill โผล่ออกจากสถานีก็เห็นความอลังการอยู่ตรงหน้าทันที



                           Tower of London ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี คศ.1078 สมัย กษัตริย์ William I สร้างเพื่อเป็นพระราชวังและป้อมปราการเมือง ต่อมาอีกหลายยุคสมัยได้สร้างกำแพงล้อมเพิ่มขึ้นเป็น 2 ชั้น ขุดคูน้ำล้อมรอบกำแพง มีห้องคุมขัง ห้องประหารนักโทษ คลังอาวุธต่าง ๆ มากมาย อีกทั้งเคยเป็นที่เก็บสัตว์ดุร้ายต่าง ๆ จากทั่วโลกอีกด้วย  Unesco ประกาศให้ที่แห่งนี้เป็นมรดกโลกเมื่อปี คศ.1988


                                             หน้าประตูทางเข้า Tower of London


                                                   ผ่านประตูเข้ามาภายใน



                       Highlight ของที่นี่คือ White Tower  มีอายุกว่า 900 ปี  เปิดให้เข้าชมชั้นล่างที่เป็น St.John's Chapel ที่ประกอบพิธีทางศาสนา และอีกส่วนคือ พิพิธพัณฑ์เสื้อเกราะและอาวุธของกษัตริย์  ( The Arms and Armour)



                      เจ้าหน้าที่จะแต่งกายยุคโบราณ( Yeoman Warder) คอยเป็น Guide ให้นักท่องเที่ยว


                        ทหารยามรักษาการณ์ถูกถ่ายรูปนับเป็นร้อย ๆ ครั้ง ไม่รู้ว่าชอบหรือแอบเซ็ง !

                     Tower of London เปิดให้ชมถึง 18.30 น. ค่าเข้าชม 17 ปอนด์ (บัตร London Pass ฟรี ยื่นบัตรที่ประตูเข้าได้เลยไม่ต้องต่อคิวแลกตั๋วยาวเหยียด)

                 
                     ออกจาก Tower เดินเลียบแม่น้ำ Thames เพื่อไปลงเรือ City Cruises ชมสองฟากฝั่งของแม่น้ำ งานนี้จะใช้บัตรฟรีของ London Pass หรือ ใช้ตั๋วฟรีของ The Original Tour ก็ได้ ( ค่าเรือเริ่มที่ 8.40 ปอนด์) เรือจะออกทุก 30 นาที ขึ้นลงกี่ครั้งก็ได้ทุกท่าที่จอด บนเรือจะมีเจ้าหน้าที่คอยบรรยายสถานที่ริมสองฝั่งให้ทราบ

                                         เรือ 2 ชั้น ชั้นบน open air หนาวมาก ขอบอก


                                                    แผนที่แสดงจุดขึ้น ลง ทั้ง 4 ท่าเรือ

                           













                         เลือกขึ้นฝั่งที่ท่า London Eye จบ Tour สำหรับวันนี้