เต้าหู้โมเมนผัดพริกหวาน

                            ทานเต้าหู้เยอะ ๆ เขาว่ามีประโยชน์ดี บางคนไม่ชอบ ติว่าจืด ๆ เหม็น ๆ แต่หากว่าเรารู้จักปรุงแต่งให้อร่อย ก็ทานได้ไม่ยากค่ะ


เครื่องปรุง

1.เต้าหู้โมเมน     1  กล่อง
2.พริกหวานแดง เขียว เหลืองหั่นชิ้นสี่เหลี่ยมเล็ก ปริมาณตามชอบ
3.เห็ดหอมสด     4 - 5 ดอก
4.น้ำมันหอย       2 ช้อนโต๊ะ
5.กระเทียมสับ    2 กลีบ
6.หมูสันในหั่นชิ้นเล็ก ๆ นิดหน่อยพอ
7.ผักกาดขาวหั่นเป็นท่อน 2 - 3 ใบ

วิธีทำ

1.เต้าหู้หั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า ทอดในน้ำมันพืชจนเหลืองสวย พักไว้
2.เจียวกระเทียม ตามด้วยหมูสันใน ผัดจนสุก
3.ใส่เห็ดหอมสด พริก 3 สี ผักกาดขาว และน้ำมันหอย ผัดคลุกเคล้าให้ทั่ว ๆ จนผักสุก
4.ใส่เต้าหู้ที่ทอดไว้ลงไป ผัดคลุกเบา ๆ เข้ากันดี ปิดไฟ
5.ตักใส่จาน ทานได้เลยค่ะ

Doctor Jin Korean Version by Song Seung - heon

Hero แห่งวง JYJ  และ Song Seung - heon ผู้รับบท Dr.Jin

                                   ใคร ๆ ที่ชื่นชอบ series ญี่ปุ่นที่เคยนำมาฉายทางช่อง Thai PBS เรื่อง หมอจิน มาแล้ว ตอนนี้ทางเกาหลีจะนำเรื่องนี้มา remake ใหม่ใน version เกาหลี ในชื่อเรื่อง " Time Slip Dr.Jin " โดยผู้ที่จะได้สวมบทบาทของ หมอจิน ผู้สามารถ คือ Song Seung - heon

                                   Song Seung - heon เคยฝากผลงานดราม่าไว้หลายเรื่อง เช่น Autumn in My Heart(2000), East of Eden(2008), My Princess (2011) และห่างหายจากหน้าจอทีวีไปนาน  ครั้งนี้กลับมารับบทนำเป็นคุณหมอในศตวรรษที่ 21 ที่ก้าวข้ามกลับไปสู่อดีตปี 1860 ในสมัย EDO ยุคจักรพรรดิ Joseon และใช้เทคโนโลยีการแพทย์สมัยใหม่ไปรักษาคนไข้ในอดีตจนเป็นที่ยอมรับนับถือ เรื่องนี้ดังมาจากการ์ตูนยอดฮิตของญี่ปุ่นที่นำมาทำเป็น series ที่ญี่ปุ่นติดกันงอมแงม

                                   งานนี้ยังได้ Hero สมาชิกวง JYJ มาร่วมแสดงอีกด้วย โดยรับบทนายทหารหนุ่มจากครอบครัวตระกูลนักรบที่เข้มแข็ง  แต่มีใจที่อ่อนโยนรักหญิงหนึ่งนางเดียวในใจมาตลอดกาลตั้งแต่ยังเด็ก ๆ

Dr.Jin version ญี่ปุ่นที่โด่งดัง

                      อดใจรอไม่นานค่ะ คาดว่าวันที่ 26 พค.นี้ได้ชมกันแน่นอน กาปฏิทินเตรียมกันไว้ได้เลย.

(ขอบคุณข้อมูลจากเวบ hancinema)           

มะเขือเทศผัดไข่

                             ที่เซี่ยงไฮ้จะมีเมนูอาหารง่าย ๆ อย่างหนึ่งที่คนจีนชอบทานกัน ไม่ว่าจะทำทานที่บ้านหรือสั่งตามร้านอาหาร เมนูที่ว่า คือ มะเขือเทศผัดไข่ ค่ะ


เครื่องปรุง


มะเขือเทศชนิดผลใหญ่ 4 ลูก
ไข่ไก่   4   ฟอง
ผงซุปไก่  1/2 ช้อนชา
เกลือป่น  1/3 ช้อนชา
น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา
น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

         1..หั่นมะเขือเทศเป็นชิ้น ๆ ตามรูป

             2.ตอกไข่ใส่ชาม เหยาะผงซุปไก่ลงไป

                  3.ตีไข่จนเข้ากันดี

              4.ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชลงไป พอกระทะร้อนได้ที่ เทไข่ที่ตีไว้ลงไป พอไข่ใกล้สุก ใช้ตะหลิวพลิกกลับอีกด้าน

                   5.ใช้ตะหลิวตัดไข่เป็นชิ้น ๆ และเกลี่ยไปด้านหนึ่งของกระทะ ใส่มะเขือเทศที่หั่นไว้แล้วลงไป

                  6.เหยาะเกลือและน้ำตาลทรายในมะเขือเทศ ผัดจนสุกและน้ำมะเขือเทศแฉะ ๆ

                  7.โปะไข่ไปบนมะเขือเทศ และใช้ฝาหม้อปิดอบไว้ไฟปานกลาง 1 นาที

                   8.เปิดฝาหม้อ ตักใส่จานรับประทานได้แล้วค่ะ


Tips    มะเขือเทศ 1 ผลให้วิตามินซีมากเท่ากับส้มโอ  1/2 ผล
           มะเขือเทศ 1 ผลให้วิตามินเอ 1/3 ของปริมาณวิตามินเอที่ร่างกายต้องการใน 1 วัน

The Most Expensive City in The World

                               ผลการสำรวจจาก 131 เมืองทั่วโลกของ U.K.-based Economist Intelligence Unit ยกให้ เมือง  Zurich ของ Switzerland เป็นเมืองที่มีค่าครองชีพแพงที่สุดในโลก


                               ชื่อเมืองก็บอกอยู่แล้ว Zu - rich ร่ำรวยมหาศาล งานนี้เขาวัดกันที่ราคาสินค้าข้าวของ อาหารการกิน ค่าบริการต่าง ๆ ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ที่พักโรงแรม โดยใช้เมือง New York City เป็นบรรทัดฐาน ปรากฎว่า  Zurich   สูงกว่า New York City ถึง 70%


                               Zurich เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของ Switzerland เป็นศูนย์กลางการเงิน การธนาคาร และทองคำของโลก มีคำขวัญประจำชาติ คือ  " All for One , One for All " นอกจากนี้ Zurich ยังเคยได้ตำแหน่งเมืองที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดในโลก, 1 ใน 10  เมืองน่าอยู่ที่สุดในโลก และเมืองที่ร่ำรวยที่สุดในยุโรปอีกด้วย

   

          

         
                             

                          เห็นภาพแล้วอยากไปเที่ยวบ้างแล้วใช่ไหมคะ  ที่นี่มีพิพิธภัณฑ์เยอะมากถึง 30 แห่ง มีพิพิธภัณฑ์ช็อกโกแลตและพิพิธภัณฑ์กาแฟให้ชมอีกด้วย หากจะไปเที่ยวควรไปในช่วงเดือน พฤษภาคม -  ตุลาคม ปลายฤดูใบไม้ผลิเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง หยอดเงินใส่กระปุกให้เต็มที่เตรียมพร้อมเลยค่ะ.




(ขอบคุณภาพสวย ๆ จาก เวบท่องเที่ยวต่าง ๆ)


Tips  อยากทราบแล้วใช่ไหมว่าเมืองใดรั้งตำแหน่งที่สุดท้ายใน 131 เมือง  เมืองการาจี ประเทศปากีสถานค่ะ

เมืองการาจี 

    

ซููกินีชุบแป้งทอด

                          ซูกินีนอกจากจะนำไปผัด ใส่สลัดแล้ว ยังนำมาทำเมนูชุบแป้งทอดแสนอร่อยได้อีก ไปเจอมาจากตำราอาหารเกาหลี


เครื่องปรุง


ซูกินี  1  ลูกย่อม ๆ เลือกที่ผิวเรียบ ๆ มันวาวไม่ขรุขระ เนื้อแน่นกดด้วยนิ้วมือไม่นิ่มเละ
ไข่ไก่ 1 ฟอง
แป้งข้าวโพด 1/3 ถ้วย
เกลือป่น น้ำมันพืช


น้ำจิ้ม ซอสคิกโคแมน 2  ช้อนโต๊ะ ผสมกับน้ำส้มสายชู  1 ช้อนโต๊ะ และงาคั่ว จะใส่พริกป่นและถั่วลิสงป่นเพิ่มด้วยก็ได้


วิธีทำ

 1.หั่นซูกินีตามขวางเป็นแว่น ๆ ขนาด 1/4 นิ้ว

2.โรยเกลือป่นเล็กน้อยให้ทั่วซูกินีที่หั่นไว้ หมักทิ้งไว้ 5 - 7 นาทีจนเข้าเนื้อและนิ่ม

3.ต่อยไข่ใส่ชาม ใส่เกลือป่นนิดหน่อย ตีให้เข้ากัน

4.เทแป้งข้่าวโพดใส่จานก้นแบน นำซูกินีชุบแป้งข้าวโพดทั้งสองด้าน พักไว้

5.ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ ไฟปานกลาง พอน้ำมันร้อนได้ที่ นำซูกินีลงชุบในไข่แล้วใส่ในกระทะ ทีละชิ้น ๆ จนเต็มกระทะ

6.พอเริ่มเหลืองทอง กลับด้านซูกินี ทอดจนเหลืองทั่วกัน และทอดจนหมด หากน้ำมันพืชในกระทะแห้งไป ค่อย ๆ เติมลงไปด้วย

7.ตักขึ้นใส่จาน ทานร้อน ๆ คู่กับน้ำจิ้มที่เตรียมไว้ อร่อยมากขอบอก.

บำรุงหัวใจกันหน่อย

                            คุณ ๆ ที่ชอบแจกหัวใจให้ใครบ่อย ๆ หัวใจอาจจะบอบช้ำมาหลายครั้ง เจ็บมากบ้างน้อยบ้างตามสภาวะการณ์ว่าถูกทิ้งหรือทิ้งถูกคน  คนนิสัยไม่ดีก็เขี่ย ๆ ทิ้งไปเสีย หันมาเริ่มต้นใหม่ แต่ต้องบำรุงหัวใจตัวเองเสียก่อนค่ะ


                            ไปอ่านเจอมาว่าสุดยอดอาหารบำรุงหัวใจของเรามีอะไรบ้าง

                          1. แซลมอน ปลาแห่งทะเลน้ำลึกที่อุดมไปด้วยโอเมก้า - 3 ไขมันดีที่ป้องกันโรคหัวใจ ลดคอเลสเตอรอล  กูรูบอกว่าเราควรทานปลาอย่างน้อย 2 ครั้งต่อสัปดาห์ จะเป็นปลาทะเลอื่น ๆ ก็ได้หากแซลมอนราคา over เกินไป เช่น ทูน่า ซาร์ดีน

                          2. Apple มีเส้นใยและวิตามิน ช่วยบำรุงหัวใจชั้นดี สมกับคำจำกัดความของเขาว่า " An Apple a Day , keep Doctor Away " ยังไงยังงั้นเลยเชียว

                        3. มะเขือเทศ อุดมไปด้วย ไลโคปีน สารที่ช่วยลดอัตราการเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจ บางคนร้อง ยี้ ว่าทานยากเพราะกลิ่นหรือแหยะ ๆ แต่ทน ๆ เอาหน่อยถ้าไม่อยากเสียใจภายหลัง

                             4. ข้าวโอ๊ต  มีไฟเบอร์ เบต้า กลูแคน ลดคอเลสเตอรอล  ข้าวโอ๊ตทานง่าย ผสมกับ นม น้ำเต้าหู้ หรือ โยเกิร์ต คน ๆ ตักใส่ปากได้เลย

                            5. Olive Oil น้ำมันมะกอกที่อยู่ในเมนูอาหารฝรั่งทั้งหลาย ช่วยในเรื่องลดคอเลสเตอรอล ไม่ให้หลอดเลือดหัวใจอุดตัน ก็ต้องทานพวกสลัด อาหารปิ้งย่าง เพราะน้ำมันมะกอกดูไม่ค่อยจะเข้ากับเมนูไทย ๆ นัก

                            6. Almond มีวิตามีน E สูง บำรุงหัวใจ ลดคอเรสเตอรอล เคี้ยว ๆ เป็นอาหารว่างยามนั่งดูทีวี อ่านหนังสือ หรือใส่ในผักสลัดใบเขียว ๆ ที่มีน้ำมันมะกอกผสม ก็ครบ set  เลย

                           7. Red Wine  สารโพลีฟีนอลในไวน์จะช่วยบำรุงหัวใจเป็นอย่างดี  แค่วันละไม่เกิน 1 แก้ว โรคภัยไกลห่าง กูรูว่าไว้

                              8. ถั่วเหลือง ดื่มน้ำเต้าหู้ เต้าหู้แผ่น  ช่วยลดไขมันในหลอดเลือดหัวใจ มะเร็งเต้านม กระดูกพรุน


                             เรียกว่าตื่นเช้ามา น้ำเต้าหู้ใส่ข้าวโอ๊ตสักถ้วย ตามด้วยผักสลัดที่ใส่แซลมอน แอปเปิล โรยอัลมอนด์ มะเขือเทศ คลุกเคล้ากับน้ำสลัดที่มีส่วนผสมของน้ำมันมะกอก 1 จานเล็ก ๆ ตบท้ายด้วยไวน์แดง  1 เป๊ก ครบพอดี 8 อย่าง โอ้โฮ หัวใจเสริมใยเหล็กสุด ๆ เลยค่ะ


(ขอบคุณภาพสวย ๆ จาก web ต่าง ๆ , t'care โดยเอื้อพันธุ์ -กรุงเทพธุรกิจ ข้อมูล)

หมูอบสับปะรด

                            เมนูเย็นนี้ทานอะไรดี นึกไม่ออกขอนำเสนอ หมูอบสับปะรด ค่ะ

เครื่องปรุง

1.สันคอหมู หั่นสไลด์ชิ้นบาง ๆ 1/2 กก.
2.เนื้อสับปะรด  1/2 ลูก หั่นเป็นแว่น ๆ
3.มะเขือเทศสีดา
4.เห็ดหอมสด เห็ดฟาง
5.น้ำมันงา 1 ช้อนโต๊ะ
6.งาขาวคั่ว
7.ซอสเทริยากิ 1 ช้อนโต๊ะ น้ำมันหอย 3 ช้อนโต๊ะ เกลือ 1/2 ช้อนชา มิริน 1 ช้อนชา
8.บรอคโคลี่ 1 ต้นเล็ก หั่นเป็นดอก ๆ

วิธีทำ

1.ใช้หม้อเคลือบเทฟลอน วางชิ้นสับปะรดลงไปก้นหม้อ ตามด้วยหมู มะเขือเทศ น้ำมันงา โรยงาขาวคั่วให้ทั่ว
2.ผสมส่วนผสมเครื่องปรุง ข้อ 7. ในถ้วย คนให้เข้ากัน ใส่น้ำสุกนิดหน่อย เทลงไปในหม้อ
3.นำหม้อขึ้นตั้งไฟปานกลาง ปิดฝาหม้อ อบทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที หมั่นคอยดูเป็นระยะอย่าให้น้ำแห้ง

4.พอหมูเริ่มเปื่อยได้ที่ ใส่บรอคโคลี่ ปิดฝาอบต่ออีก 3 นาที

5.ใส่เห็ดหอมสด เห็ดฟาง คนให้ทั่ว อบไฟอ่อนอีก 2 นาที ให้น้ำข้นขลุกขลิก

6.ชิมรสออกหวานนิดเค็มหน่อย หากชอบเผ็ดนิดหน่อยเหยาะซอสพริกค่ะ


Tips  การใส่สับปะรดลงไปในอาหารอบ จะช่วยให้เนื้อสัตว์ที่เคี่ยวอยู่เปื่อยเร็วขึ้น เมนูนี้สามารถเปลี่ยนเป็นซี่โครงหมูอบ  เนื้ออบ ได้ค่ะ

Park Yoochun - Micky in new series " The Rooftop Prince "

                       คุณชาย  Park สมาชิกวง JYJ หลังจากจบการแสดงในบทพระเอกมาดนุ่มจากละคร Miss Ripley ไปเมื่อ 9 เดือนก่อน ครั้งนี้หวลคืนกลับมารับงานแสดงอีกครั้งใน Series ใหม่เรื่อง The Rooftop Prince


                        เป็นละครแนวโรแมนติค - ดราม่า เรื่องราวเกี่ยวกับเจ้าชายหนุ่มในสมัยราชวงศ์โชซอนที่บังเอิญได้เดินทางข้ามเวลาถึง 300 ปีเข้ามาในปีปัจจุบัน 2012 ในกรุงโซล เพื่อตามหาพระชายาที่จากไป โดยมาพร้อมกับข้ารับใช้คนสนิทหนุ่ม ๆ อีก 3 คน  และจากในยุคปัจจุบันนี้เอง ทำให้พระองค์ได้พบกับหญิงสาว 2 คน คนหนึ่ง Joo Se Na  เธอมีใบหน้าเหมือนกับพระชายาของพระองค์อย่างกับพี่น้องฝาแฝด อีกคนหนึ่ง Park Ha หญิงสาวที่ช่วยเหลือพระองค์ทุกอย่าง จนนำไปสู่เรื่องราวความรักระหว่างคนทั้งสาม (โอ้โฮ ช่างเหมือนละครบ้านเราจัง)


                              กำหนด on air ทุกวันพุธ พฤหัส เริ่มวันที่ 14 มีนาคม นี้ ทางช่อง  SBS


                        

                                                         นางเอกของเรื่อง Han Ji Min






             Tips 

                    ละคร หรือภาพยนตร์สไตล์ย้อนยุคมีกันให้ชมหลายเรื่อง ไม่ย้อนมาปัจจุบัน ก็ย้อนกลับไปในอดีต เช่น ทวิภพ , ข้ามเวลาหารัก ,Be With You , Time Traveler ' s Wife , Kate and Leopold  คุณดูกันครบทุกเรื่องหรือยังคะ

( ขอบคุณภาพและเรื่องจาก hancinema.net)

พาสต้าเส้นหมึกดำทะเล

                           วันนี้ทำอาหารอิตาเลี่ยนทานดีกว่า เป็นเมนูพาสต้าเส้นหมึกดำทะเล

เครื่องปรุง

1.เส้นพาสต้าหมึกดำชนิดเส้นแบน (Squid - Ink Pasta )
2.ซอสมะเขือเทศ
3.หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์
4.ปลาหมึกสด
5.น้ำมันมะกอก
6.เกลือป่น
7.ออริกาโน
8.หอมใหญ่สับละเอียด 1 หัว

วิธีทำ

1.ลวกเส้นพาสต้าในน้ำเดือดที่ใส่เกลือป่นและน้ำมันมะกอก ใช้เวลา 7 นาที ตักขึ้นพักไว้
   ต่อไปลวกหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ และปลาหมึกสด 1/2 นาที พักไว้(อาจจะเพิ่ม กุ้ง หอยลาย อีกก็ได้)
2.ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันมะกอก 1 ช้อนโต๊ะ ตามด้วยหอมใหญ่สับ ผัดจนหอม
3.ใส่ซอสมะเขือเทศลงไป 1 ถ้วย เกลือป่นนิดหน่อย อย่าให้เค็มเกินไป
4.ใส่เส้นพาสต้าลงไป คลุกเคล้าให้ทั่วกับซอสมะเขือเทศ
5.ใส่ปลาหมึกลวก หอยแมลงภู่ลวก เหยาะออริกาโนพอหอม คลุกเคล้าให้ทั่ว
6.ปิดไฟ ตักใส่จาน หากชอบเผ็ด โรยพริกป่นเพิ่มได้


  Tips    ที่พาสต้ามีสีดำได้ เนื่องจากเขาผสมหมึกของปลาหมึกลงไปในกระบวนการผลิตเส้นพาสต้า ทำให้มีสีดำและยังได้รสชาติของหมึกปลาหมึกอีกด้วย

หนังรักแห่งเดือน Valentine

                              กุมภาพันธ์ เดือนแห่งความรัก เดือนที่เปิดโอกาสให้ทุกคนบอกรักกัน ไม่ว่ารักในรูปแบบใด ๆ  ภาพยนตร์เกี่ยวกับความรัก เรื่องรัก ทั้ง  happy ending , unhappy or sad ending มีมากมายหลายเรื่อง หนึ่งในหนังรักยิ่งใหญ่ติดอันดับ 4 ใน Top 20 ของปี 2011 เรื่องหนึ่งที่จะยกมากล่าวถึงและแนะนำก็คือ The Notebook


                               The Notebook สร้างขึ้นเมื่อปี 2004 จากนวนิยายชิ้นเยี่ยมของนักเขียน Nicholas Sparks ที่คนไทยเราได้อ่านในภาคภาษาไทยโดยการแปลนิยายเล่มแรกของ จิระนันท์ พิตรปรีชา ในชื่อไทยว่า " ปาฏิหาริย์บันทึกรัก " ที่ว่ากันว่า ถอดความหมายด้วยถ้อยคำที่สละสลวยลึกซึ้งกินใจมากจนอ่านแล้วน้ำตาไหลกันเลยทีเดียว พอมาสร้างเป็นภาพยนตร์รักโรแมนติค ยิ่งประทับใจคนดูมากยิ่งขึ้นไปอีก

                            เรื่องราวเริ่มขึ้นในปี คศ.2004  นางเอกของเรื่อง ( Rachel McAdams ) เดินทางมา Seabrook Island, South Carolina ที่นี่เธอได้พบรักกับหนุ่มน้อยพระเอกของเรื่อง   ( Ryan Gosling คนนี้กำลังมาแรง ) แต่ก็เหมือนละครบ้านเรา พระเอกนางเอกต้องถูกกีดขวางความรักโดยพ่อแม่ของนางเอกอยากให้ลูกสาวแต่งงานกับเศรษฐีคนรวย โอ้โฮช่างเหมือนกันไปซะทั่วโลกเลยเรื่องแบบนี้

                             การพลัดพรากจากกันระหว่างคนรักวัย 17 จึงเกิดขึ้น เมื่อนางเอกต้องเดินทางกลับ New York และสัญญารักกันไว้ ตลอดเวลา 365 วันพระเอกของเราเฝ้าเขียนจอมอรักทุกวันส่งถึงเธอ แต่ก็เหมือนละครไทยอีกนั่นแหละ แม่นางเอกแอบเก็บซ่อนไว้ทุกฉบับ นางเอกจึงไม่เคยได้อ่านเลย

                               ผ่านไป 10 ปี ของความเข้าใจผิดนั้น นางเอกจึงพบรักใหม่กับชายที่ดีพร้อมตามที่แม่ต้องการและกำลังจะแต่งงาน แต่ในใจเธอยังตัดพระเอกออกไปไม่ได้ จึงเดินทางกลับไปยัง Seabrook  อีกครั้ง หลังจากพบว่าพระเอกของเราสร้างบ้านในฝันของเขาทั้งสองเอาไว้ เธอจึงต้องตัดสินใจเลือกทำตามหัวใจเรียกร้อง


                               จะว่า Happy Ending ก็ happy แบบ sad sad ในตอนท้ายเมื่อทั้งสองครองรักมาจนแก่เฒ่า นางเอกชราก็เริ่มเป็นโรคหลงลืม Alzheimer จำได้ 5 นาทีแล้วก็ลืมอีก ทำให้จำเรื่องในอดีตไม่ได้ พระเอกเฒ่าของเราจึงใช้วิธีอ่าน บันทึกเรื่องในอดีตให้ฟังทุก ๆ วันแม้ตัวเองก็มีแต่โรคร้ายรุมเร้าใกล้ตาย  จนในคืนสุดท้ายแห่งชีวิตของทั้งสองอันสุดแสนซึ้งมาก เป็นวันครบรอบ 49 ปีแห่งชีวิตคู่ ความทรงจำกลับคืนมา แต่ก็เป็นวาระสุดท้ายของเขาทั้งสองเช่นกัน

                             ไม่ได้ spoil จนเสียอรรถรส แต่เรื่องนี้คิดว่าหลายต่อหลายคนคงไม่พลาดชมกันมาแล้วตั้งแต่เข้าฉายเมื่อปี 2004 และก็ประทับใจอยู่ในความทรงจำเสมอมา จนได้รับเลือกเป็นหนึ่งในสุดยอดหนังรักแห่งปีที่ไม่ควรพลาด.

“Nothing is ever really lost, or can be lost

No birth, identity, form-no object of the world,

Nor life, nor force, nor any visible thing; …

The body, sluggish, aged, cold-the embers left from earlier fires,

… shall dully flame again;”

"ไม่มีสิ่งใดหายไปได้จริงๆ   หรือถูกทำให้หายไปได้ 

ไม่ว่าการเกิด, เอกลักษณ์, รูปทรง  หรือวัตถุทุกอย่างในโลก

ไม่ว่าชีวิต, พลัง  หรือสิ่งที่มองเห็นได้

สังขาร, เชื่องช้า, ชรา, ความหนาวสั่น-คือเถ้าถ่านที่เคยเป็นไฟ

รอเวลาลุกไหม้กระพือโหมอีกครั้งหนึ่ง"

- Nicholas Sparks : The Notebook