ได้มีโอกาสไปเที่ยวชม 2 วังของไทยกับเขา โดยตามไปกับชมรมข้าราชการอาวุโส ( วัย 70 - 80 up ) เริ่มกันด้วยวังสระปทุม ต่อด้วยวังพญาไท
วังสระปทุม ตั้งอยู่บริเวณถนนพระรามที่ 1 และถนนพญาไท กรุงเทพมหานคร ซึ่งรัชกาลที่ 5 พระราชทานที่ดินให้เป็นที่สร้างวังของสมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมขุนสงขลานครินทร์ พระราชโอรสในพระองค์ซึ่งประสูติแต่พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า แต่ยังมิได้มีการสร้างวังขึ้น ณ ขณะนั้น เนื่องจากสมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมขุนสงขลานครินทร์ได้เสด็จไปศึกษาต่อยังต่างประเทศ หลังจากรัชกาลที่ 5 เสด็จสวรรคต จึงเริ่มสร้างพระตำหนักขึ้น ณ วังสระปทุม เมื่อปี พ.ศ.2459 สมเด็จพระพันวัสสา ฯ ทรงประทับอยู่จนสวรรคตในปี พ.ศ.2498 ปัจจุบันใช้เป็นที่ประทับของ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
วังสระปทุมยังเคยเป็นสถานที่จัดงานอภิเษกสมรสระหว่างสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนกและสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี รวมทั้ง ยังเป็นสถานที่จัดพระราชพิธีราชาภิเษกสมรสระหว่างพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถอีกด้วย
พื้นที่ของวังในปัจจุบันแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นพื้นที่ประทับของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ส่วนที่ 2 เป็นพื้นที่ให้เช่าทำศูนย์การค้าต่าง ๆ ที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน คือ สยามดิสคัฟเวอรี่เซ็นเตอร์ สยามเซ็นเตอร์ และสยามพารากอน
ส่วนของวังสระปทุมที่ให้เข้าชมได้จริง ๆ คือ ส่วนแสดงพิพิธภัณฑ์สมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า โดยรถยนต์จะเข้าทางด้านหลังสยามพารากอน และจอดรถที่อาคารจอดรถของสยามพารากอน และเดินมายังประตูทางเข้าพิพิธภัณฑ์ ซึ่งเปิดให้เข้าชมเวลา 10.00 น.(ห้ามถ่ายภาพภายในทั้งสิ้น)
ทางเดินไปยังประตูทางเข้าพิพิธภัณฑ์ ฯ |
อันนี้อร่อยมาก ขอบอก |
ทุก ๆ ปีจะเปิดให้เข้าชมในช่วงระหว่างวันที่ 17 ธันวาคม - 31 มีนาคม ทุกวันเว้นวันอาทิตย์ เวลา 10.00 - 17.00 น. โดยต้องทำการนัดล่วงหน้าก่อนเข้าชม ค่าเข้าชมคนละ 150 บาท นักเรียนนักศึกษา 50 บาท รายละเอียดต่าง ๆ สามารถดูจาก www.queensavang.org
หลังพักรับประทานอาหารกลางวันที่ร้านอาหารในวังเสร็จเรียบร้อย ช่วงบ่ายเดินทางต่อไปยังวังพญาไทกัน ไปติดตามกันในตอน II
(เมนูแกงส้มที่ร้านอาหารวังสระปทุมอร่อยมาก)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น