เราไปหาสาวน้อยหลินปิงกันก่อน ช่วงนี้กระแสความนิยมเธอลดลง เนื่องจากผ่านวัยเด็กน้อยมาแล้ว กลายเป็นแพนด้าใหญ่ นั่งกินแต่แท่งไผ่ได้ตลอดเวลา กินเสร็จก็ถ่่าย ๆ ออกมาแล้วก็กินต่อ ทำอยู่อย่างนี้ ที่น่าอิจฉาคือ อยู่บ้านหลังใหญ่มาก แอร์เย็นฉ่ำตลอดเวลา มีอุปกรณ์ปีนป่าย ชิงช้าให้เธอเล่นออกกำลังหวาดเสียวให้คนดูได้ลุ้นไปด้วย เสียแต่ว่าเราดูแล้วรู้สึกว่าน่าจะเหงา ๆ นะ ไม่มีเพื่อนเลย แต่เขาบอกว่าเป็นนิสัยของแพนด้าที่จะอยู่ตัวคนเดียว จะพบคู่ก็ตอนจะเจริญพันธุ์เท่านั้น ข้อห้ามของการเยี่ยมหลินปิงคือ ห้ามส่งเสียงดังและห้ามใช้แฟรชถ่ายภาพเธอ ค่าเยี่ยมคนละ 50 บาท หลังจากนั้นก็ไปดูผู้ให้กำเนิดเธอ คือ คุณช่วง-ช่วง และคุณหลิน-ฮุ่ย ช่วง-ช่วงเอาแต่กินไผ่ตามเคยเหมือนกัน กินแล้วอึโชว์แถมด้วยท่าเด็ดให้ทุกคนต้องรีบถ่ายรูปเก็บไว้ทันที ส่วนแม่หลิน-ฮุ่ยเอาแต่นอนหลับสบายในบรรยากาศเย็นฉ่ำ ไม่มาอวดโฉมให้ชื่นใจเลยค่ะ
สาวน้อยเอาแต่กิน |
เล่นชิงช้าบาร์ห้อยโหนฟิตหุ่นซะหน่อย |
ป่าป๊าช่วง- ช่วง ก็กิน ๆๆๆ |
กินเสร็จอึโชว์เสียหน่อย |
ท่าเด็ดช่วง - ช่วง |
หม่าม้า หลิน-ฮุ่ย ที่เอาแต่นอนอุตุ |
ต่อจากนั้นเราก็ไปชม Aquarium ซึ่งอยู่ใกล้ ๆ กัน โดยใครที่ชมแพนด้าออกมาจะซื้อตั๋วได้ในราคา 220 บาท จากราคาปกติ 250 บาท ที่นี่มีสัตว์น้ำนานาชนิดมากมายให้ชม และอุโมงค์ทางเดินกระจกโค้งที่ยาวที่สุดในโลก (เขาว่างั้นนะ)
(ภาพนี้จากเวป Chiangmaiaquarium) |
สวนสัตว์เปิดให้ชมระหว่างเวลา 8.00 - 18.00 น.ทุกวัน อีกทั้งมี Twilight Zoo ชมสัตว์ป่ายามค่ำคืนอีกด้วย
Tips
เส้นทางจาก มช. ขึ้นไปสวนสัตว์ มีแหล่งท่องเที่ยวมากมายที่พลาดไม่ได้ โดยเริ่มจากไหว้ครูบาศรีวิชัย ผ่านสวนสัตว์ขับขึ้นต่อไปอีก 13 กม.ถึงพระธาตุดอยสุเทพ สูงขึ้นไปอีก 4 กม.เป็นพระตำหนักภูพิงค ฯ และขับไปอีก 4 กม.สุดท้ายจะพบกับจุดสูงสุดคือดอยปุย หายเวียนหัวกับร้อยพันโค้ง ก็กลับลงมาเส้นทางเดิมเพื่อเยี่ยมหลินปิงเป็นที่สุดท้ายค่ะ เพราะใช้เวลามากที่สุด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น