i-maru ไอศกรีมไข่

                              ไปเที่ยวหัวหินล่าสุด หลานซื้อไอ้เจ้านี่มาให้ลองทาน  บอกว่าเป็นไอศกรีม ตอนแรกมองดูแล้วยังงง ๆ ว่าไอศกรีมอะไรกันหน้าตาเป็นแบบนี้ เขาเรียกไอศกรีมไข่  Hokkaido Milk ซึ่งมีออกมาจำหน่ายนานแล้ว แต่เราเชยไปเอง

            Hokkaido Milk Egg Ice-cream รูปร่างคล้ายไข่หรือเต้านมของวัว มีทั้งรสวานิลลา ช็อกโกแลต แคนตาลูป กล้วย เบอร์รี่ น้อยหน่า โยเกิร์ตเบอร์รี่ และพีชญี่ปุ่น เวลาจะทานจะต้องใช้กรรไกรตัดปลายจุกออก แล้วดูดไอศกรีมที่ละลาย ซึ่งจะค่อยๆ พุ่งออกมาตลอดเวลา คล้าย ๆ ดูดนมจากเต้า วัสดุที่ใช้หุ้มทำเป็นรูปไข่นั้นทำจากยางมาตรฐานเดียวกับที่ใช้ผลิตจุกขวดนมเด็กเลยทีเดียว

                             ไป search หาข้อมูลใน Net ทราบว่าผู้คิดค้นผลิตคนแรกเป็นคนจันทบุรี จากที่มีสวนทุเรียนและผลผลิตออกมากเกินความต้องการในท้องตลาด จึงได้ไอเดียทำเป็นไอศกรีมขึ้นมา แต่ต้องไม่ธรรมดา ต้องแปลกแตกต่างกว่าของใคร ๆ  จึงเป็นดังที่เห็นนี่ละค่ะ

                                  
                              ราคาใบละ 39 บาท แต่รสชาดอร่อยหวานมันอย่าบอกใครเชียว เสียอย่างเดียว เวลาซื้อ take home กลับมาทาน อีตอนตัดจุก หากไม่ระวังตัวให้ดี มีปรี๊ดใส่ตัวเลอะเทอะเอาได้ค่ะ โดนมาแล้ว เพราะของเขาพุ่งแรงจริง ๆ 


(ขอบคุณภาพจากเวบผู้จัดการ,SME ThailandClub)


    

กุ้งอบวุ้นเส้น

                               เย็นนี้ทานกุ้งอบวุ้นเส้นกันดีกว่า เมนูนี้ทำไม่ยาก และใช้เวลาน้อยค่ะ

เครื่องปรุง

1.กุ้งสดปอกเปลือก ผ่าหลังเอาขี้กุ้งออก ล้างสะอาด ปริมาณตามต้องการ(หากชอบสวยงามไม่ต้องปอกเปลือก)
2.วุ้นเส้นแช่น้ำจนนิ่มหั่นท่อนสั้น ๆ      2 ห่อ
3.ขิงแก่หั่นแว่น  3-4 แว่น
4.พริกไทยดำเม็ด 1/2 ชช. ล้างน้ำสะอาด
5.เบคอน หรือหมูสามชั้น หรือ หนังไก่ 1 ชิ้น (งานนี้ใช้หนังไก่เพราะเขาว่ามีคอลลาเจนสูง)
6.ต้นหอม ผักชี ล้างสะอาดหั่นเป็นท่อน ๆ
7.น้ำมันงา 1 ชต.
8.กระเทียมกลีบใหญ่ 4-5 กลีบ ปอกเปลือกออก บุบพอแตก
9.น้ำมันหอย ซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย อย่างละ 2 ชต. ผงซุปไก่ 1 ชช.และซีอิ๊วดำ 1 ชต.ผสมทุกอย่างให้เข้ากัน

วิธีทำ

1.ใช้หม้อเทฟลอน หรือหม้อดินถ้ามี ใส่น้ำมันงา หนังไก่ ขิงแก่ พริกไทเม็ด กระเทียมลงไปก้นหม้อ
2.ใส่วุ้นเส้น และส่วนผสมตามข้อ 9 ราดลงไป

3.ใส่กุ้ง คลุกเคล้าให้เข้ากัน

4.โรยต้นหอม ผักชี และน้ำต้มสุกนิดหน่อยลงไป
5.ปิดฝาหม้อ ตั้งบนไฟอ่อน ประมาณ 5-10 นาที
6.พอกุ้งสุกเป็นสีส้มแดง ปิดไฟได้ ( อย่าอบนานเกินไป กุ้งจะเนื้อแข็งไม่อร่อยค่ะ)

ไปไหว้หลวงปู่ทวดที่วัดห้วยมงคล

                                อาทิตย์ที่ผ่านมา เป็นครั้งแรกที่ได้มีโอกาสไปกราบไหว้และได้เห็นเป็นบุญตาบุญใจกับองค์หลวงพ่อทวดหรือที่นิยมเรียกกันว่า หลวงปู่ทวด องค์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่วัดห้วยมงคล ชุมชนบ้านห้วยคต ต.ทับใต้ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ 

                                กว่า 40 ปีที่หมู่บ้านห้วยมงคล เป็นที่ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเสด็จมาเยี่ยมประชาชนในคราวเสด็จแปรพระราชฐานมาประทับแรมยังพระตำหนักไกลกังวล หัวหิน เพื่อทอดพระเนตรโครงการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในหมู่บ้าน ที่จะทำให้เกิดความมั่นคงและนำมาซึ่งความสุขให้กับพสกนิกร ทั้งยังทรงอุปถัมภ์วัดห้วยมงคลไว้ให้เป็นที่พึ่งทางใจสำหรับชาวบ้าน

                              พระครูปภัสรวรพินิจ เจ้าอาวาสวัดห้วยมงคลองค์ปัจจุบัน ซึ่งเป็นพระนักพัฒนา ที่มีศีลจารวัตที่ดีงามเป็นที่เคารพบูชาของคนในชุมชน และ พลเอก วิเศษ คงอุทัยกุล รองสมุหราชองครักษ์ ได้ร่วมโครงการจัดสร้าง "หลวงพ่อทวด" องค์ใหญ่ที่สุดในโลก เพื่อน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวันมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 6 รอบ  สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ  เมื่อสิงหาคม 2547 และพระราชทานพระราชานุญาตให้คณะกรรมการจัดสร้างอัญเชิญพระนามาภิไธยย่อ ส.ก. ขึ้นประดิษฐานที่หน้าฐานองค์รูปหล่อหลวงพ่อทวด

                               องค์หลวงพ่อทวด หล่อด้วยโลหะผสม หน้าตักกว้าง 9.9 เมตร สูง 11.5 เมตร บนฐานสูง 3 ชั้น ชั้นล่างกว้าง 70 เมตร ยาว 70 เมตร ตั้งตระหง่าน ตัดกับขอบฟ้า สงบนิ่งอยู่ใจกลางของวัด สะดุดตาและอิ่มเอมใจยิ่งนัก

                               ด้านล่างจะมี "ช้างเอราวัณสามเศียร" ตั้งอยู่สองฝั่งซ้าย-ขวา มีพวงมาลัยสักการะมากมาย ทุกคนที่มาจะเดินลอดใต้ท้องช้างกันหลายรอบ ด้วยความเชื่อและศรัทธาในการปกป้องคุ้มครองภัย ช้างเอราวัณสามเศียรสร้างจากไม้  9 ชนิด คือไม้สัก ไม้รัก ไม้พยุง ไม้ขนุน ไม้ประดู่ ไม้แดง ไม้เต็งรัง ไม้ตะเคียน และสุดท้ายคือไม้จันทร์ชะมด

การเดินทางไปวัดห้วยมงคล 

                            สมัยนี้มี GPS นำทางไปไหน ๆ แสนสะดวกสบาย แค่สะกดคำว่า วัดห้วยมงคล ได้ ก็ไม่มีหลงแล้ว แต่หากใครไม่มี ถ้าเดินทางมาถึงหัวหินถิ่นทะเลแล้ว ให้ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 3218 หนองพลับ - ป่าละอู ระยะทางประมาณ 14 กม.เมื่อถึง ต.ทับใต้ เลี้ยวซ้ายที่สี่แยกหนองตะเภา แล้วเข้าไปตามทางจนถึงวัดห้วยมงคล ที่นี่เปิดให้นมัสการระหว่างเวลา 05.00-22.00 น.แนะนำพกร่ม หมวก แว่นกันแดดไปด้วยจะดี แต่ที่จอดรถไม่มีปัญหา เนื่องจากบริเวณวัดกว้างขวางมาก

(ขอบคุณแผนที่จากเวบ ไปด้วยกัน)

ร้้อนมากมายอะไรอย่างนี้

                            เดือนเมษามหาโหดแห่งความร้อนระอุสุด ๆ อากาศช่างร้อนมากมายอะไรอย่างนี้ เปิดน้ำก๊อกไม่ต้องบิดไปใช้น้ำร้อนเลย แค่น้ำเย็นธรรมดาอาบน้ำแล้วยังรู้สึกร้อนเหมือนน้ำต้ม  ขยับตัวเดินก้าวสองก้าวเหงื่อไหลไคลย้อยเหนียวเนื้อตัวไปหมด  นั่งเฉย ๆ ก็อยากหาอะไรใส่ปากดับความร้อน กรุงเทพมหานครร้อนระอุถึงเกือบ 40 ํ C


                            สิ่งที่ต้องทำในสภาวะอากาศร้อน  ต้องทำนะ ต้องทำ

                           1.ดื่มน้ำสะอาดให้มาก ๆ อย่าขาดน้ำเป็นอันขาด อาจเป็นลมหมดสติ หรือทำให้ความดันต่ำ 
                           2.งดของเค็ม เนื่องจากจะทำให้ร่างกายขับน้ำออกมามาก
                           3.จิบน้ำหวานบ้าง มีเมนูอร่อยแนะนำในหน้าร้อน คือ " แดงมะนาวโซดา " 

                                 ผสมน้ำแดงเฮลส์บลูบอยกับโซดาตราอะไรก็ได้ จะช้างจะสิงห์ได้หมด แล้วบีบมะนาวตามไปสักเสี้ยว ใส่น้ำแข็งก้อน น้ำแข็งเกล็ด ลงไป ดื่มแล้วสดชื่นอย่าบอกใคร


                           4.ออกกำลังกายโดยการว่ายน้ำ ช่วยคลายร้อนได้ แต่ไม่ใช่สระว่ายน้ำกลางแดดจ้านะ เพราะน้ำจะร้อนมาก ๆ หาที่มีร่มเงาบังแดดได้สักหน่อย 

                                                  นี่ของญี่ปุ่นเขา น่าอิจฉาไหมล่ะ


                           5.หากอยากผลไม้ ให้ทานแตงโม งดหรือเบา ๆ กับมะม่วงสุก ทุเรียนสุก เพราะอุดมไปด้วยแป้งและน้ำตาล เดี๋ยวหน้าร้อนจะฉุเอาไม่รู้ตัว

                             6.ข้อสุดท้ายถ้ายังไม่หายร้อน นั่งดูภาพนี้ไปนาน ๆ จินตนาการเหมือนว่าเรานั่งอยู่ในบ้านหลังนั้นกำลังผิงไฟแก้หนาวซะเลย อิอิ

(ขอบคุณภาพจาก google search)

 

ละคร period เรื่องแรกของ Lee Min - ho

                             " Faith " เรื่องราวของ Choi Young หัวหน้าองครักษ์นักรบโบราณสมัยกษัตริย์ Gong - min แห่งราชวงศ์ Goryeo ( คศ. 918 - 1392 )  พบและตกหลุมรักกับคุณหมอสาวในโลกปัจจุบัน Eun - soo ที่ได้เข้าไปในอดีตและแนะนำหลักการแพทย์สมัยใหม่ให้กับหมอ Kang - chan เพื่อช่วยรักษาเยียวยาราษฎรขององค์กษัตริย์ ให้หายจากเจ็บไข้ได้ป่วยด้วยวิวัฒนาการสมัยปัจจุบัน  ภายหลังหัวหน้าองครักษ์ได้รับแต่งตั้งเป็นแม่ทัพ Choi Young (แนวเดียวกับ หมอจินของญี่ปุ่น)


                               Lee Min-ho รับเล่นละครประวัติศาสตร์เป็นครั้งแรกในชีวิตการแสดงของเขา   หลังจากอ่านบทละครแล้วเกิด In อย่างมากจึงอยากลองท้าทายกับบทบาทใหม่ Choi Young


                               นางเอกที่มารับบทคุณหมอคือ Kim Hee-seon   ( จาก Sad Love Story)  งานนี้ตัวจริงของจริงอายุนางเอกแก่กว่าพระเอกถึงเกือบ 10 ปี  แต่อย่างที่ว่าอายุเป็นเพียงตัวเลขไม่สามารถทำอะไรเธอได้เลยค่ะ เธอยังคงความสวยเหมือนเมื่อครั้งอดีต

                 

  
                              ความยาว 16 ตอนจบ on air ทางช่อง SBS  เกาหลี ทุก พุธ - พฤหัส เริ่มวันที่ 13  สิงหาคม นี้ แฟน ๆ Lee Min - ho นับวันถอยหลังรอหน่อยนะ                                                     

  

   

(ขอบคุณภาพ hancinema)

Kim Sun - ah with New Series " I Do, I Do "

                               จากบทบาทนางเอก Series ดังในอดีต My Name is Kim Sam-Soon  มาครั้งนี้ Kim Sun-ah พลิกบทบาทจากนางเอกแสนดี มารับบทสาวโสดวัยสามสิบผู้กำลังทะยานถึงจุดสูงสุดในตำแหน่งหน้าที่ shoe designer แต่แล้วเรื่องกลับพลิกผันเมื่อเธอเกิดตั้งท้องขึ้นมาโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัวกับความผิดพลาดแค่คืนเดียวกับหนุ่มลูกจ้างบริษัทมือใหม่ไร้ประสบการณ์ที่เธอไม่รู้อะไรเกี่ยวกับตัวตนของเขานอกจากจบเพียง high school มีพื้นเพแตกต่างจากเธอราวฟ้ากับเหว แถมไม่เคยมีความรักต่อกัน


                                งานนี้ได้หนุ่มหล่อ Lee Jang Woo พระรองจากเรื่อง Glory Jane  ครั้งนี้กับบทบาทพระเอกเรื่องแรกของเขาเลยทีเดียว


                                นางเอกของเราจะตัดสินปัญหาชีวิตของเธออย่างไร เมื่อเธอยึดคติที่ว่า การแต่งงานต้องเกิดขึ้นจากความรักระหว่างคนสองคนเท่านั้น  คอยติดตามชม Series เรื่อง  I Do, I Do กันได้ทางช่อง MBC เกาหลี ประมาณเดือนหน้า พค.นี้   

   

(ขอบคุณ Hancinema)

" Big " with Gong Yoo

                             จะเกิดอะไรขึ้น เมื่อหนุ่มวัย 18  Kang Gyung-Joon  กลับกลายมาเป็นคุณหมอวัย 30 ผู้ประสบความสำเร็จ Seo Yoon Jae แถมมีคู่หมั้นแสนสวยเป็นคุณครูสาว high school  Gil Da-Ran  และยุ่งไปอีกเมื่อเธอเป็นคุณครูของนักเรียนหนุ่มวัย 18 คนนั้้น  และยุ่งสุดเหยิงเมื่อคุณหมอคนใหม่ไปตกหลุมรักกับหญิงอื่นอีกนะสิ


                              นี่คือ plot series เรื่องใหม่ล่าสุดของ Gong Yoo หนุ่มที่สาว ๆ มากมายแอบหลงใหลใฝ่ฝันตั้งแต่สมัย Coffee Prince อันโด่งดัง ครั้งนี้มารับบท Kang Gyung-Joon ประกบกับนางเอกสาวสวยจาก Midas  Lee Min-Jung ในบทคุณครูสาว และสาว sexy ร้อนแรง Bae Suzy  หนึ่งในสมาชิกวง Miss A งานนี้ทำให้พระเอกของเราเลือกไม่ถูกเอาเลยทีเดียว


                              แฟน ๆ Gong Yoo คอยติดตามชมกันได้ทุกวันจันทร์ - อังคาร ช่อง KBS2 เกาหลี เริ่มวันที่  4 มิย.นี้ ค่ะ

                                                                    Gong Yoo

                                                               Lee Min-Jung

                                                             Bae Suzy Miss A

(ที่มา Hancinema)

เส้นหมี่ผัดกะปิ

                            เมนูนี้เป็นอาหารจานเดียวง่าย ๆ ทำทานมื้อกลางวันวันหยุดยาวค่ะ


เครื่องปรุง


1.เส้นหมี่ขาวแช่น้ำให้นุ่ม  1  ห่อ (ทานได้ 4 คน)
2.เนื้อหมูสันในหรือสันคอหั่นชิ้นพอคำ  1  ถ้วย
3.กะปิอย่างดี  2 ช้อนโต๊ะ
4.น้ำมันพืช
5.ผักกาดขาวหั่นท่อนสั้น ๆ 1 ต้น
6.แครอทหั่นฝอย  1/2 ถ้วย
7.ใบมะกรูดฉีกเป็นชิ้นเล็ก ๆ  6 - 7 ใบ
8.กระเทียมสับ  1 ช้อนชา
9.พริกขี้หนูสับมากน้อยตามชอบ
10.น้ำตาลทราย น้ำปลาดี ผงซุปไก่
11.กุ้งแห้งป่น    1/2  ถ้วย
12.ใบกระเพรา  1 ต้น


วิธีทำ

1.ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ เจียวกระเทียมพอเหลือง  ใส่กะปิตามลงไปผัดคลุกจนหอม

2.ใส่หมูลงผัด ตามด้วย กุ้งแห้งป่น 

3.ใส่แครอท ผักกาดขาว พริกขี้หนู คลุกเคล้าพอสลด

4.ลงเส้นหมี่ตามไปในกระทะ ผัดให้เข้ากันจนถ้วนทั่ว ปรุงรสด้วยน้ำตาลทราย ผงซุปไก่ น้ำปลาดี (หากเค็มได้ที่แล้วไม่ต้องใส่) ชิมรส เผ็ด เค็ม หวานนิดหน่อย

5.ตบท้ายด้วยใบมะกรูดและใบกระเพราโรยลงไปให้ทั่ว ผัดไปมา  2 ที ปิดไฟได้
6.ตักใส่จาน เสริฟร้อน ๆ 




Tips     กรรมวิธีทำกะปิ เริ่มต้นด้วยการนำ " เคย " หรือลูกกุ้งฝอย มาล้างเอาเศษผงออกให้หมด แล้วเลือกกุ้งตัวที่ใหญ่เกินไปออก เพราะจะทำให้ยุ่งยากในการตำ และถ้ามีลูกปลาก็ต้องคัดออกด้วย มิฉะนั้นจะทำให้กะปิออกมาดำ สีไม่สวย เมื่อล้างเรียบร้อยแล้ว นำไปผึ่งไว้ให้สะเด็ดน้ำประมาณเช้าถึงเพล พอให้เคยเริ่มเน่าหน่อย ๆ จึงนำมาเคล้ากับเกลือให้ทั่ว อัตราส่วนเคย ๑๐๐ กิโลกรัมต่อเกลือ ๑ ถัง  เกลี่ยให้กระจายแล้วผึ่งบนแคร่ไม้ไผ่ที่มีผ้ารองทิ้งไว้ ๑ คืน รุ่งเช้านำออกตากแดดถึงเย็น จึงนำใส่ครกไม้ตำให้แหลกด้วยสากมือ รุ่งเช้านำออกตากอีกครั้งหนึ่งให้แห้งพอหมาด ๆ ถึงเย็นเอามาตำหนึ่งครั้งให้ละเอียดและเหนียวดี จึงบรรจุใส่โอ่งหรือไห   แต่ก่อนจะใส่โอ่งต้องตรวจดูก่อนว่ากะปิเหนียวดีหรือไม่ ถ้าแข็งเกินไปให้เอาน้ำเกลือพรมแล้วตำให้อ่อนพอดี ถ้าอ่อนแฉะไป ให้แบ่งเป็นก้อน ๆ ขนาดเท่ากำปั้นแล้วเอาออกตากแดดให้เหนียวพอดี

              การยัดใส่โอ่งต้องอัดให้แน่นไม่ให้อากาศเข้าได้ เพราะนานเข้าน้ำเคยจะไหลซึมไปขังทำให้กะปิแฉะ  เมื่อบรรจุเต็มแล้วให้เจียนใบตาลปิดทับแล้วนำไม้ไผ่จักเป็นแผ่นขัดกัน ๔ แผ่น จากนั้นนำเกลือ ๑ กำมือโรยทับปากโอ่งตั้งทิ้งไว้ในที่ปลอดภัยจากน้ำฝนและฝุ่นละออง นานประมาณ ๒ - ๓ เดือนจึงเปิดออกมารับประทานได้


               อ่านกรรมวิธีแล้วซื้อเขาทานง่ายกว่าแน่นอนค่ะ


(ขอบคุณข้อมูลการทำกะปิจากเวบสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดจันทบุรี)

เดนมาร์ก ประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลก

                            สหประชาชาติ หรือ UN ประกาศอันดับประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลกประจำปีนี้ ปรากฎว่า ประเทศเดนมาร์ก ได้อันดับที่ 1 ไปครอง และประเทศอื่น ๆ แถบยุโรป ติดอันดับต้น ๆ แทบทั้งสิ้น


                            เรามาดูความสวยงามของประเทศที่มีความสุขสุดโลกกัน

                             สวยงามน่าท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก การไปเที่ยวประเทศเดนมาร์ก ต้องทำเรื่องขอวีซ่า โดยเตรียมเอกสาร 

1. Passport ตัวจริง และถ่ายสำเนา 1 ใบ
2. สำเนาทะเบียนบ้าน 1 ใบ
3. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน 1 ใบ
4. statement หมุนเวียนอยู่ในบัญชี  ย้อนหลัง 6 เดือน
5. ถ้าเคยเดินทางไปต่างประเทศ ภายในระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมาให้ถ่ายสำเนา วีซ่า 1 ใบ
6. หนังสือรับรองการทำงาน หรือรับรองการเป็นนักศึกษา หากยังเรียนอยู่ และหนังสือรับรองเงินเดือน 
7. เงินค่าสมัครวีซ่า 2,400 บาท (อาจมีการเปลี่ยนแปลง) 
8.รูปถ่ายสี ขนาด 2 นิ้ว 2 รูป พื้นหลังสีขาว

                         เตรียมเอกสารทุกอย่างครบแล้วก็ไปยื่นเอกสาร  ช่วงเช้า :  08.00 - 12.00 น.   ช่วงบ่าย :  13.00 - 15.00 น. สถานที่ยื่นวีซ่า : ตึกอัมรินทร์ พลาซ่า เลขที่ 500 ชั้นที่ 8 ถนนเพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพ


                          เดนมาร์ก ปกครองโดยระบอบกษัตริย์เหมือนบ้านเรา มีเมืองหลวงชื่อ กรุงโคเปนเฮเกน หรือเมืองแห่งเทพนิยาย เดนมาร์กมีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี อุณหภูมิเฉลี่ยจะอยู่ระหว่างติดลบถึง 3 องศาเซลเซียส ในช่วงเดือนธันวาคมถึงเดือนมีนาคม และระหว่าง 15-20 องศาเซลเซียส ในช่วงซัมเมอร์ คือระหว่างเดือนมิถุนายนถึงต้นเดือนกันยายน อากาศจะกำลังเย็นสบายดี จึงเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเดินทางไปเที่ยวประเทศเดนมาร์ก 

                           

                                                          Little Mermaid สัญญลักษณ์ของเมือง


                           เวลาที่เดนมาร์กจะช้ากว่าบ้านเราประมาณ 5 - 6 ชั่วโมง การเดินทางจากกรุงเทพถึงโคเปนเฮเกนใช้เวลาเกือบ 11 ชม. สกุลเงินที่ใช้คือ Krone (DKK)  1 DKK ประมาณ  5.45 บาท

                     สงสัยจังว่าเขาใช้เกณฑ์อะไรมาวัดความสุขกัน สุขจากประชาชนร่ำรวยมีเงิน หรือสุขจากที่รัฐบาลของเขาดูแลประชาชนเป็นอย่างดีจนแก่เฒ่าไม่ลำบาก  อ้อ เกือบลืมบอกไป พี่ไทยของเราได้อันดับ 52 แต่เป็นอันดับ 3 แห่ง Asia เชียวนะจะบอกให้...




(ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก google)

ยำปลาทูทอดสมุนไพร

                            เมนูนี้เหมาะกับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก เพราะทานมากไปก็ไม่อึดอัด นั่นคือ ยำปลาทูทอดสมุนไพร


เครื่องปรุง


ปลาทูตัวขนาดกลาง 3  ตัว
ขิงซอย                    1/2 ถ้วย
หอมแดงซอย          1/2 ถ้วย
ต้นหอมซอย              3  ต้น
ถั่วลิสงคั่วบุบหยาบ ๆ 1/2 ถ้วย
ตะไคร้ซอย                2 ต้น
พริกขี้หนูซอยมากน้อยตามความชอบเผ็ด
น้ำมะนาว น้ำตาลทราย เกลือป่น
ผักกาดหอม ผักชีฝรั่ง โหระพา ผักแพว


วิธีทำ


1.ทอดปลาทูในน้ำมันพอเหลืองทั่ว แกะเอาแต่เนื้อชิ้นเล็ก ๆ ใส่ในชามคลุก 
2.ใส่เครื่องปรุงทุกอย่างตามลงไป ค่อย ๆ คลุกเบามือ ชิมรสให้เปรี้ยว เค็ม หวาน เผ็ดจัดจ้าน 
3.ตักใส่จานโรยหน้าด้วยถั่วลิสงคั่วแบบเม็ด ๆ เสริฟคู่กับผักสลัดต่าง ๆ 
4.เวลาจะทาน ใช้ใบผักกาดหอมห่อยำปลาทู โรยหน้าด้วยผักแพว ผักชีฝรั่ง โหระพา แล้วค่อย ๆ บรรจงใส่ปากเคี้ยวค่ะ  อร่อยจริงอร่อยจัง




         
Tips   ผักแพวเป็นผักพื้นบ้านที่มีคุณสมบัติทางยาสมุนไพร มีรสเผ็ดร้อน มีสรรพคุณในการขับลม แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ มีฟอสฟอรัสสูง มีวิตามินเอสูงมาก นอกจากนี้ยังมีแคลเซียมและวิตามินซีอีกด้วย

การกลับมาของ Jang Dong Gun

                           ห่างหายจากวงการไปร่วม 12 ปี พระเอกหนุ่มหล่อวัย 40 Jang Dong Gun หวลคืนกลับมาร่วมงาน Series ใหม่ล่าสุด " A Gentleman 's Dignity " ครั้งนี้เขามากับนางเอกสาวสวยขวัญใจของเรา  Kim Ha Neul 


                           Series แนว romantic 20  ตอนจบ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของหนุ่มสาววัยทำงานอายุระหว่าง 30 - 40 ปี  architect หนุ่มผู้มีทุกสิ่งอย่างทั้งคุณสมบัติและรูปสมบัติที่สามารถพิชิตใจสาว ๆ ทุกคน เขามีความสุขกับชีวิตหนุ่มโสดด้วยเหตุผลว่าไม่ต้องการแบ่งทรัพย์สินให้กับใคร แต่สุดท้ายก็ต้องยอมจำนนกับหญิงหนึ่งเดียว คุณครูสาวสวยวัย 36 ที่แสนเจ้าระเบียบแต่ใจหวั่นไหวกับหนุ่มปากร้ายคนนี้

  

                             ร่วมด้วยกับอีก 2 หนุ่มหล่อที่จะมาเรียก rating กับสาว ๆ  หนึ่งคือนักเรียนหนุ่มเจ้าปัญหาของนางเอก แสดงโดย Kim Woo-bin ที่ชอบก่อเรื่องกวนไปทั่ว กับอีกหนุ่มขวัญใจ CN Blue fanclubs  Lee Jong Hyun  กับการเล่นละครเรื่องแรกของเขาในครั้งนี้

                                                              Kim Woo Bin

                                  Lee Jong Hyun มือ Guitar และนักร้องวง CN Blue

                             เริ่มฉายตอนแรก  26 พค.นี้ ทางช่อง SBS เกาหลีค่ะ ห้ามพลาดเด็ดขาด

(ขอบคุณ hancinema)

ข้าวเกรียบอ่อนจิ้มน้ำจิ้ม

                            หากเป็นคนเมืองจันทบุรีหรือเคยไปเที่ยวเมืองจันท์ต้องรู้จักเมนูนี้ดี เนื่องจากหาทานที่ไหนไม่มีแล้ว ข้าวเกรียบอ่อนจิ้มน้ำจิ้มค่ะ


เครื่องปรุง


1.ข้าวเกรียบอ่อน(เส้นก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่แบบไม่ตัด)   1 กก.
2.กุ้งแห้งอย่างดี     1 ถ้วย
3.น้ำตาลทราย       2 ชต
4.เกลือป่น             1 ชช
5.มะนาว                2 ลูก
6.กระเทียม            5 กลีบ
7.พริกขี้หนูสวน
8.น้ำต้มสุก           1/2 ถ้วย


วิธีทำ


1.กุ้งแห้งล้างสะอาดป่นใส่ถ้วยพักไว้

2.นึ่งข้าวเกรียบอ่อนประมาณ 3 นาทีให้ร้อน พักไว้

3.ทำน้ำจิ้มโดยตำกระเทียมและพริกขี้หนูพอแหลกในครก ใส่น้ำตาลทราย เกลือ น้ำมะนาว และน้ำต้มสุก ชิมรสให้จัดทั้ง 3 รส หวาน เปรี้ยว เผ็ด ตามชอบ
4.เทผสมในถ้วยกุ้งแห้งป่น คลุกเคล้าให้เข้ากัน ถ้าแห้งไปเติมส่วนผสมเพิ่มให้น้ำขลุกขลิก
5.จัดเส้นข้าวเกรียบอ่อนใส่ในจาน ทานคู่กับน้ำจิ้ม โดยเวลาจะทาน ตักเส้นแบ่งใส่ถ้วยหรือจานและนำน้ำจิ้มราดลงไปค่ะ

Tips  วิธีทำเส้นข้าวเกรียบอ่อนโบราณของจันทบุรี นั้น มีกรรมวิธีการผลิตโดยนำแป้งข้าวเจ้าไปโม่ให้ละเอียดแล้วผสมกับน้ำบาดาลให้มีความข้นพอเหมาะ จากนั้นก็ละเลงเป็นแผ่นใหญ่นึ่งด้วย ความร้อนจากไอน้ำ พอสุกดีก็แซะวางบนตะแกรงไม่ไผ่เป็นแผ่น ๆ 

(ขอบคุณข้อมูลจากเวบสีสันตะวันออก)