Last Day 29 Mar 13
วันนี้เป็นวันที่ทุกคนรอคอย คือการได้ชมภูเขาไฟ ฟูจิ ที่สวยงามของญี่ปุ่น
ที่มีชื่อเรียกหลากหลายว่า Fuji หรือ Fuji - san หรือ Fujiyama
ด้วยความสูงถึง 3,776.24 เมตร ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของโตเกียว ใกล้มหาสมุทรแปซิฟิค ล้อมรอบไปด้วยทะเลสาปทั้ง 5 ได้แก่ ทะเลสาป Kawaguchiko, Yamanaka, Sai, Motosu และสุดท้าย Shoji. และเมืองสำคัญ 3 เมือง คือ เมือง Gotemba ทางทิศใต้, Fujiyoshida ทางทิศเหนือ และเมือง Fujinomiya ทางตะวันตกเฉียงใต้
Lake Kawaguchiko |
ปากปล่องภูเขาไฟจะถูกปกคลุมด้วยหิมะขาวโพลนสวยงามเป็นเวลาหลายเดือนทุกปี อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ - 38ํํ C - 17.8 ํ C
คาดว่าภายในปี ค.ศ.2015 ภูเขาไฟฟูจิจะมีการประทุบริเวณชั้น 5 หรือ 6 และพ่นลาวาอีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแรงกดดันทางธรรมชาติด้วย (ครั้งสุดท้ายที่เกิดคือปี ค.ศ.1707 )
ก่อนจะถึงจุดชมภูเขาไฟฟูจิชั้นที่ 5 จะผ่าน Information Center ที่นี่เราจะเห็นยอดของฟูจิชัดเจนและสวยงามมาก เป็นจุดที่ต้องถ่ายภาพเก็บไว้
เนื่องจากกรมอุตุ ฯ ของญี่ปุ่นแจ้งว่าสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย วันนี้จึงขึ้นชมฟูจิได้แค่ชั้น 4 เท่านั้น แต่ก็ยังเห็นความสวยงามและวิวรอบ ๆ บวกกับความหนาวเย็นยะเยือก จุดนี้มีที่ให้ละลายทรัพย์ในกระเป๋าด้วยของที่ระลึกต่าง ๆ อย่าลืมซื้อตุ๊กตาฟูจิ น่ารักมาก ๆ
เดินทางต่อเข้าสู่เมือง Tokyo กับบรรยากาศรถติดสุด ๆ เนื่องจากเป็นวันศุกร์สิ้นเดือนเหมือนบ้านเรา เงินเดือนออกทุกคนอยากไปกิน ไป shopping มาถึงสถานที่ท่องเที่ยวสุดท้ายของโปรแกรมนี้เอาค่ำมืด นั่นคือ วัด Asakusa Kannon หรือ Sensoji Temple
วัดนี้เป็นวัดทางพุทธศาสนา ที่เก่าแก่ที่สุดของโตเกียว สร้างเสร็จเมื่อปี ค.ศ.645 เมื่อเราเดินผ่านซุ้มประตูทางเข้าที่เรียกว่า Kaminarimon (Thunder Gate) มีโคมไฟสีแดงใหญ่ยักษ์ 4.5 เมตร ทุกคนจะมุ่งไปต่อแถวเพื่อสักการะองค์เจ้าแม่กวนอิมทองคำ ที่เชื่อกันว่าขอพรอะไรก็ได้ตามประสงค์ และเสี่ยงเซียมซีทำนายโชคชะตา ซื้อเครื่องรางของทางวัด ต่อจากนั้นก็จะเดินชมร้านรวงต่าง ๆ หน้าวัดกว่า 200 เมตร บนถนน shopping ที่เรียกว่า Nakamise สิ่งของต่าง ๆ เช่น ชุดยูกาตะ พัดกระดาษ ของที่ระลึก ขนม
ทางวัดจะเปิดให้ประชาชนเข้าชมและนมัสการระหว่างเวลา 06.00 - 17.00 น.ไม่เสียค่าใช้จ่าย
สุดท้ายก็ต้องลาจากกรุงโตเกียวกลับกรุงเทพเมืองแห่งความร้อนระอุของเรา รีบเดินทางไปยังสนามบิน ฮาเนดะ เพื่อขึ้นเครื่อง JAL Bye Bye Tokyo , Bye Bye Japan
คาดว่าภายในปี ค.ศ.2015 ภูเขาไฟฟูจิจะมีการประทุบริเวณชั้น 5 หรือ 6 และพ่นลาวาอีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแรงกดดันทางธรรมชาติด้วย (ครั้งสุดท้ายที่เกิดคือปี ค.ศ.1707 )
Fuji-san from Futaba sa Herb Garden View Point |
Map from Fuji Information Center |
ก่อนจะถึงจุดชมภูเขาไฟฟูจิชั้นที่ 5 จะผ่าน Information Center ที่นี่เราจะเห็นยอดของฟูจิชัดเจนและสวยงามมาก เป็นจุดที่ต้องถ่ายภาพเก็บไว้
อาหารกลางวันกับการชมวิว Lake Kawaguchigo |
เนื่องจากกรมอุตุ ฯ ของญี่ปุ่นแจ้งว่าสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย วันนี้จึงขึ้นชมฟูจิได้แค่ชั้น 4 เท่านั้น แต่ก็ยังเห็นความสวยงามและวิวรอบ ๆ บวกกับความหนาวเย็นยะเยือก จุดนี้มีที่ให้ละลายทรัพย์ในกระเป๋าด้วยของที่ระลึกต่าง ๆ อย่าลืมซื้อตุ๊กตาฟูจิ น่ารักมาก ๆ
เดินทางต่อเข้าสู่เมือง Tokyo กับบรรยากาศรถติดสุด ๆ เนื่องจากเป็นวันศุกร์สิ้นเดือนเหมือนบ้านเรา เงินเดือนออกทุกคนอยากไปกิน ไป shopping มาถึงสถานที่ท่องเที่ยวสุดท้ายของโปรแกรมนี้เอาค่ำมืด นั่นคือ วัด Asakusa Kannon หรือ Sensoji Temple
วัดนี้เป็นวัดทางพุทธศาสนา ที่เก่าแก่ที่สุดของโตเกียว สร้างเสร็จเมื่อปี ค.ศ.645 เมื่อเราเดินผ่านซุ้มประตูทางเข้าที่เรียกว่า Kaminarimon (Thunder Gate) มีโคมไฟสีแดงใหญ่ยักษ์ 4.5 เมตร ทุกคนจะมุ่งไปต่อแถวเพื่อสักการะองค์เจ้าแม่กวนอิมทองคำ ที่เชื่อกันว่าขอพรอะไรก็ได้ตามประสงค์ และเสี่ยงเซียมซีทำนายโชคชะตา ซื้อเครื่องรางของทางวัด ต่อจากนั้นก็จะเดินชมร้านรวงต่าง ๆ หน้าวัดกว่า 200 เมตร บนถนน shopping ที่เรียกว่า Nakamise สิ่งของต่าง ๆ เช่น ชุดยูกาตะ พัดกระดาษ ของที่ระลึก ขนม
ทางวัดจะเปิดให้ประชาชนเข้าชมและนมัสการระหว่างเวลา 06.00 - 17.00 น.ไม่เสียค่าใช้จ่าย
สุดท้ายก็ต้องลาจากกรุงโตเกียวกลับกรุงเทพเมืองแห่งความร้อนระอุของเรา รีบเดินทางไปยังสนามบิน ฮาเนดะ เพื่อขึ้นเครื่อง JAL Bye Bye Tokyo , Bye Bye Japan
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น