Day II 26 Mar 13
ออกจากสนามบินคันไซมาได้ก็เริ่มต้นการท่องเที่ยวในวันนี้ด้วย วัด วัด วัด เริ่มที่เมือง Nara ระหว่างทางรถบัสจะจอดให้ลงไปยืดเส้นยืดสายตาม Rest Area เป็นระยะ ๆ ได้ทั้งละลายทรัพย์ในกระเป๋า(ซึ่งคนไทยถนัดที่สุด) ได้เข้าห้องน้ำสาธารณะที่สะอาดมาก ๆ เสียดายไม่ได้ถ่ายภาพหลักฐานมาให้ดู
ขนมหน้าตาสวย ๆ หลอกล่อเงินออกจากกระเป๋า |
เมือง Nara อดีตเมืองหลวงแห่งแรกของญี่ปุ่น สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 1253 ต้องบอกว่าคล้ายกับเมืองอยุธยาหรือสุโขทัยบ้านเรา เพราะเต็มไปด้วยวัดเก่าแก่ทั้งที่ยังอยู่ในสภาพดี ทั้งที่ปรักหักพังเสียหาย รวม 8 วัด เป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวนิยมมากราบไหว้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และทัวร์ทุกที่ชอบจัดพาชมจุใจทั้งวัน
เริ่มกันที่วัด โทได - จิ ( Todi- Ji )
เข้ามาถึงจะพบกับซุ้มประตูทางเข้านันไดมงก่อนเพื่อน |
เป็นวัดที่มีความสำคัญที่สุดในเมือง Nara ที่ซุ้มประตูนันไดมงมีเสาถึง 18 ต้น รองรับหลังคา เป็นสถาปัตยกรรมชิ้นงามสมัยคามาคุระ สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.1286
สิ่งสำคัญที่ล้ำค่าที่สุดของวัดนี้คือ หลวงพ่อโตไดบุสสึ สร้างด้วยทองสัมริดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ประดิษฐานอยู่ในวิหารหลวงพ่อโต ซึ่งหลังเดิมถูกไฟไหม้ และสร้างขึ้นใหม่ถึง 2 ครั้ง ซึ่งวิหารหลังปัจจุบันมีขนาดเพียง 2 ใน 3 ของหลังเดิม และยังได้ชื่อว่าเป็นวิหารไม้ขนาดใหญ่ที่สุดในโลกและขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก
ภายในบริเวณวัดก็ตื่นตาไปด้วยเหล่าฝูงกวางนับพันตัวคอยต้อนรับหรือคอยรับอาหารก็ไม่แน่จากนักท่องเที่ยวมากมายไปหมด เลือกให้อาหารตัวที่อยูไกล ๆ หน่อย เพราะตัวหน้า ๆ แย่งอาหารจากนักท่องเที่ยวไปมากแล้ว
ภายในวิหารยังมีเสาไม้ใหญ่ ที่ด้านล่างเจาะรูไว้ ว่ากันว่าหากใครลอดผ่านไปได้ คำอธิฐานจะสัมฤทธิ์ผล (คนอ้วนใหญ่หมดสิทธิ์)
ที่นี่ต้องเสียเงินค่าเข้าชม 500 เยน เปิดให้ชมทุกวัน เวลา 07.30 - 17.30 น. และถ้ายังไม่จุใจ ยังมีวัดอื่น ๆ ในนาระให้เที่ยวชมอีก เช่น วัด Kofukuji , Saidai-ji, Kasuga Shrine, Gangō-ji, Yakushi-ji, Tōshōdai-ji, และสุดท้าย Heijō Palace
ซุ้มประตูแดงด่านที่สองก่อนถึงวิหาร |
สิ่งสำคัญที่ล้ำค่าที่สุดของวัดนี้คือ หลวงพ่อโตไดบุสสึ สร้างด้วยทองสัมริดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ประดิษฐานอยู่ในวิหารหลวงพ่อโต ซึ่งหลังเดิมถูกไฟไหม้ และสร้างขึ้นใหม่ถึง 2 ครั้ง ซึ่งวิหารหลังปัจจุบันมีขนาดเพียง 2 ใน 3 ของหลังเดิม และยังได้ชื่อว่าเป็นวิหารไม้ขนาดใหญ่ที่สุดในโลกและขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก
ภายในบริเวณวัดก็ตื่นตาไปด้วยเหล่าฝูงกวางนับพันตัวคอยต้อนรับหรือคอยรับอาหารก็ไม่แน่จากนักท่องเที่ยวมากมายไปหมด เลือกให้อาหารตัวที่อยูไกล ๆ หน่อย เพราะตัวหน้า ๆ แย่งอาหารจากนักท่องเที่ยวไปมากแล้ว
ภายในวิหารยังมีเสาไม้ใหญ่ ที่ด้านล่างเจาะรูไว้ ว่ากันว่าหากใครลอดผ่านไปได้ คำอธิฐานจะสัมฤทธิ์ผล (คนอ้วนใหญ่หมดสิทธิ์)
ที่นี่ต้องเสียเงินค่าเข้าชม 500 เยน เปิดให้ชมทุกวัน เวลา 07.30 - 17.30 น. และถ้ายังไม่จุใจ ยังมีวัดอื่น ๆ ในนาระให้เที่ยวชมอีก เช่น วัด Kofukuji , Saidai-ji, Kasuga Shrine, Gangō-ji, Yakushi-ji, Tōshōdai-ji, และสุดท้าย Heijō Palace
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น