วันอังคารที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ถั่วลิสงต้มซีอิ๊ว





                                   เมนูนี้เป็นกับข้าวทานกับข้าวต้มของคนสิงคโปร์ ไปอ่านเจอมาจาก @ Home ฉ.24 กพ.นี่เอง ใครชอบทานข้าวต้มกับ ต้องลอง

เครื่องปรุง

1.ถั่วลิสงแช่น้ำ 1 คืน  1 ถ้วย
2.ซี่โครงหมู      1 ถ้วย (ต้นฉบับเขาให้ใส่ 2 - 3 ชิ้น ขออนุญาตเยอะหน่อย)
3.กระเทียบกลีบใหญ่ปอกเปลือก 4-5 กลีบ
4.เกลือป่น        1/2 ชช
5.ผงพะโล้        1/2 ชช
6.ซีอิ๊วดำ          2 ชช
7.ซีอิ๊วหวาน      2 ชต
8.น้ำสะอาด

วิธีทำ

1.ต้มถั่วลิสงกับซี่โครงหมู และกระเทียม จนเดือด หรี่ไฟ
2.ใส่ผงพะโล้ลงไป เคี่ยวต่อไปเรื่อย ๆ จนถั่วนุ่ม อาจจะใช้เวลาเป็นชั่วโมง (ต้องอดทน)
3.หากน้ำในหม้อแห้งไป ให้เติมน้ำต้มสุกเพิ่มพอท่วม
4.ปรุงรสด้วยซีอิ๊วดำ ซีอิ๊วหวาน เกลือป่น เค็มหวานตามชอบ
5.ตักเสิร์ฟกับข้าวต้มร้อน ๆ และเครื่องเคียงอื่น เช่น ผักดอง ไข่เค็ม


(ขอบคุณ คุณสีวลี ตรีวิศวเวทย์ )

  

วันพฤหัสบดีที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

Warm Bodies






                          เดือนกุมภาแห่งความรักปีนี้ ขอแนะนำหนังรักแนวใหม่ฉบับคนรักกับซอมบี้  Warm Bodies

                          ภาพยนตร์รักตลกสยดสยองเรื่องนี้เกิดจากมนุษย์กลุ่มหนึ่งที่ถูกกลายร่างเป็นซอมบี้กินคน โดยหนึ่งในคนกลุ่มนั้นมีหนุ่มที่ไม่รู้จักชื่อตัวเองเนื่องจากเป็นซอมบี้ไปแล้ว จึงเรียกตัวเองว่า  " R " พวกเขาถูกไล่ล่ากำจัดไปพร้อมกับการไล่ล่าหามนุษย์มาเป็นอาหาร จนกระทั่งได้พบกับมนุษย์สาวสวย " Julie " และได้ช่วยเหลือเธอให้พ้นจากการจับเป็นอาหารอันโอชะ

                          ความรักได้เริ่มก่อตัวขึ้นจาก ซอมบี้หนุ่มกับหญิงสาว และการพัฒนาความคิด ความฝัน ความรู้สึกต่าง ๆ การพูดจาออกเสียง และความรู้สึกเมื่อเจ็บปวด สิ่งเหล่านี้จะทำให้เหล่านักล่าทั้งหลายเริ่มกลายกลับมาเป็นมนุษย์ดังเดิม



                       จากนวนิยายของนักเขียน Isaac Marion มาสู่ภาพยนตร์ที่ได้นักแสดงหนุ่ม Nicholas Hoult มารับบท R (หากใครยังจำได้ เขาเคยแสดงใน About a Boy เมื่อวัยเด็ก ) และนักแสดงสาวสวย Teresa Palmer ( Number 6 ในภาพยนตร์เรื่อง I am Number Four  )





                            รักของเขาและเธอจะสมหวังหรือแสนเศร้า เธอหรือเขาจะกลายร่างเป็นซอมบี้หรือโชคดีกลับคืนมาเป็นมนุษย์อย่างเดิม ต้องติดตามชมในโรงภาพยนตร์ให้ได้ค่ะ (แค่ท่าเดินและยักไหล่ของ R กับเพลงหวาน ๆ ประกอบเรื่องก็คุ้มแล้ว 555 )



(ขอบคุณภาพจาก rottentomatoes.com )


จากเด็กน้อยมาเป็นพระเอกหนุ่มซะแล้ว



 

วันจันทร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

When A Man's in Love





                                     ห่างหายไปจากหน้าจอทีวีกว่า 8 เดือน หลังจากละครเรื่อง Dr.Jin จบลง Song Seung  - heon พระเอกหนุ่มขวัญใจของเราก็กลับมากับละครใหม่เอี่ยม 20 ตอนจบ  When A Man's in  Love





                                     ชายหนุ่มวัย 37 ผู้ที่ชีวิตต่อสู้กับความยากลำบาก ต้องพลัดพรากจากแม่และน้องชายที่รัก วนเวียนอยู่กับอิทธิพลเถื่อน ๆ จนมาเป็นนักธุรกิจใหญ่อันดับต้น ๆ  กับความรักหนึ่งเดียวในใจที่มีต่อสาวสวยที่ยังอ่อนเยาว์วัย 27 ซึ่งเป็นรักฝังใจของเขา เขาผู้ซึ่งเป็นชายที่แสนซื่อและอบอุ่น มีจิตใจเมตตาช่วยเหลือคนอื่นและพวกพ้อง แม้ว่าภายหลังคนคนนั้นจะกลับมาเป็นหนามยอกอกให้ต้องเจ็บปวดหัวใจ

                                    สาวสวยที่มารับบทหนึ่งหญิงของ Song Seung- heon คือ Shin Se - kyung  เธอเพิ่งจบบทบาทนางเอกจาก Fashion King  เมื่อปีที่แล้ว ครั้งนี้มาเป็นรักแท้แสนรักของพระเอก และเป็นตัวก่อให้เกิดรักสามเส้าของเรื่อง






                       กำหนดฉายทุกวัน พุธ - พฤหัสบดี ทางสถานี MBC เริ่มประมาณต้นเดือน เมษายน ที่จะถึงนี้ อดใจรอกันค่ะ เพื่อไปให้กำลังใจพระเอกผู้น่าสงสารของเราว่าจะ happy หรือไม่

 (ขอบคุณภาพจาก hancinema)

วันอังคารที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

เที่ยววังสระปทุมแวะวังพญาไท II (ตอนจบ)





                                     บ่ายโมงตรง ออกเดินทางจากวังสระปทุมไปชมกันต่อที่วังพญาไท ซึ่งตั้งอยู่ภายในรั้วของโรงพยาบาลพระมงกุฏ ฯ ใกล้อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ สามารถนั่งรถไฟฟ้า BTS มาลงสถานีอนุสาวรีย์ ฯ และเดินต่อมายังโรงพยาบาล ฯ ( ถ้ายังมีแรงเดินไหว ) อย่าสงสัยว่าเรามาชมวังหรือโรงพยาบาลกันแน่ เพราะเมื่ออดีตกาล ที่ดินแห่งนี้เคยเป็นวังที่ประทับของรัชกาลที่ 6 มาก่อนที่จะผันแปรพื้นที่มาเป็นโรงพยาบาลในปัจจุบัน
                                    วังพญาไท หรือพระราชวังพญาไท เป็นสถาปัตยกรรมแบบตะวันตก มีหอคอยสูง และหลังคายอดแหลม ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2452 ในสมัยรัชกาลที่ 5 เพื่อเป็นที่ทอดพระเนตรการทำนา ปลูกผัก เลี้ยงสัตว์ของราษฎร บนพื้นที่ตรงข้ามกับตำหนักที่ประทับ ที่นี่เคยใช้เป็นที่ประกอบพระราชพิธีแรกนาขวัญเมื่อครั้งอดีตอีกด้วย

                                    ด่านแรกเมื่อไปถึงคือร้านจำหน่ายของที่ระลึกชั้นล่างของพระที่นั่งพิมานจักรี หลาย ๆ คนก็เงินหลุดออกจากกระเป๋าอีกตามเคย คนไทยนี่ช่าง shop จริง ๆ ทุกที่ จากนั้นเข้าไปชมและฟังวีดิทัศน์ความเป็นมา และมีวิทยากรอาสาสมัครชายหญิง 2 คน ที่ขอบอกว่ามีความสามารถสุด ๆ บรรยายได้อย่างละเอียดน้ำไหลไฟดับกันเลยทีเดียว พาเดินชมและบรรยายทุก ๆ ที่






                                     ภาพจิตรกรรมสีปูนแห้งบนเพดานลวดลายงดงามวิจิตร บานประตูแกะสลักลายปิดทองตามแบบศิลปวิคตอเรียนทุกบาน ในพระที่นั่งพิมานจักรี


ผลงานของอาจารย์ศิลป์ พีระศรี ตั้งอยู่บนชั้นสอง

                                     เดินต่อไปยังพระตำหนักเมขลารูจี เป็นเรือนไม้สัก 2 ชั้น หลังคามุงกระเบื้องดินเผา ภายในมีภาพเขียนสีโบราณ ลายนกหว้า มีห้องบรรทมเล็ก ๆ อยู่บนชั้นสอง ยังคงความเก่าด้วยลูกบิดประตู และกลอนต่าง ๆ ให้เห็น






                                     ด้านหน้าของพระที่นั่งพิมานจักรี มีสวนโรมัน มีศาลารูปทรงสี่เหลี่ยมไร้หลังคา ประดับสองข้างด้วยตุ๊กตาหินอ่อนสาวสวยโรมัน และมีสระน้ำอยู่ด้านหน้า คงจะใช้เป็นที่จัดงานเลี้ยงรื่นเริงต่าง ๆ




                                     



                                     สุดท้ายที่เดินไปชม คือ อาคารเทียบรถพระที่นั่ง เป็นอาคารแบบนีโอคลาสสิค เดิมใช้เป็นอาคารเทียบรถพระที่นั่ง และห้องพักคอยผู้รอเข้าเฝ้า ปัจจุบันปรับปรุงเป็นร้านกาแฟนรสิงห์






แผนผังบริเวณวังพญาไท


ที่ระลึกจากวังพญาไท
                                                       
                      
                                     กว่าวิทยากรจะบรรยายหมด ปาไปเกือบ 5 โมงเย็น ขอบอกว่าหากใครจะมาชมวังพญาไท แนะนำว่าควรมาช่วงเช้าจะดีกว่า เพราะตอนเย็นแถวนี้รถราติดมาก ๆ  กว่าจะฝ่าฟันรถกลับถึงบ้าน ทำเอาหมดเรี่ยวหมดแรงเลยทีเดียว 

  

วันพุธที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

เที่ยววังสระปทุมแวะวังพญาไท I





                                      ได้มีโอกาสไปเที่ยวชม 2 วังของไทยกับเขา โดยตามไปกับชมรมข้าราชการอาวุโส ( วัย 70 - 80 up ) เริ่มกันด้วยวังสระปทุม ต่อด้วยวังพญาไท



                                      วังสระปทุม ตั้งอยู่บริเวณถนนพระรามที่ 1 และถนนพญาไท กรุงเทพมหานคร ซึ่งรัชกาลที่ 5 พระราชทานที่ดินให้เป็นที่สร้างวังของสมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมขุนสงขลานครินทร์ พระราชโอรสในพระองค์ซึ่งประสูติแต่พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า  แต่ยังมิได้มีการสร้างวังขึ้น ณ ขณะนั้น เนื่องจากสมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมขุนสงขลานครินทร์ได้เสด็จไปศึกษาต่อยังต่างประเทศ หลังจากรัชกาลที่ 5 เสด็จสวรรคต จึงเริ่มสร้างพระตำหนักขึ้น ณ วังสระปทุม  เมื่อปี พ.ศ.2459  สมเด็จพระพันวัสสา ฯ ทรงประทับอยู่จนสวรรคตในปี พ.ศ.2498 ปัจจุบันใช้เป็นที่ประทับของ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

                               วังสระปทุมยังเคยเป็นสถานที่จัดงานอภิเษกสมรสระหว่างสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนกและสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี รวมทั้ง ยังเป็นสถานที่จัดพระราชพิธีราชาภิเษกสมรสระหว่างพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถอีกด้วย

                                       พื้นที่ของวังในปัจจุบันแบ่งออกเป็น 2 ส่วน  ส่วนแรกเป็นพื้นที่ประทับของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ส่วนที่ 2 เป็นพื้นที่ให้เช่าทำศูนย์การค้าต่าง ๆ ที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน คือ สยามดิสคัฟเวอรี่เซ็นเตอร์ สยามเซ็นเตอร์ และสยามพารากอน

                                       ส่วนของวังสระปทุมที่ให้เข้าชมได้จริง ๆ คือ ส่วนแสดงพิพิธภัณฑ์สมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า โดยรถยนต์จะเข้าทางด้านหลังสยามพารากอน และจอดรถที่อาคารจอดรถของสยามพารากอน และเดินมายังประตูทางเข้าพิพิธภัณฑ์ ซึ่งเปิดให้เข้าชมเวลา 10.00 น.(ห้ามถ่ายภาพภายในทั้งสิ้น)














ทางเดินไปยังประตูทางเข้าพิพิธภัณฑ์ ฯ
                                        ผ่านประตูทางเข้าไปจะพบกับอาคารร้านจำหน่ายของที่ระลึก ร้านอาหาร-เครื่องดื่ม จุดนี้จะให้ผู้เข้าชมต้องถ่ายรูปเพื่อทำบัตรเข้าชม (เป็นป้ายมีสายคล้องคอ) เฉพาะจุดนี้ก็เรียกเงินออกจากกระเป๋าของเราได้แล้วกับของที่ระลึกต่าง ๆ สมุดบันทึก หนังสือ ขนม ฯลฯ




อันนี้อร่อยมาก ขอบอก
                                       เมื่อทุกคนได้บัตรกันครบแล้ว จะมีเจ้าหน้าที่วังเป็นวิทยากรพาชม โดยเริ่มจากเข้าชมภาพวีดิทัศน์และฟังสรุปความเป็นมาที่หอนิทรรศการ หลังจากนั้นจะพาเดินไปตามทางที่ร่มรื่นไปด้วยไม้ใหญ่ ไม้ดอกสวยงามร่มรื่น จนถึงพระตำหนักใหญ่ที่เป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ ที่นี่ทุกคนต้องถอดรองเท้าเก็บในชั้นเก็บรองเท้า ฝากกระเป๋าถือ กล้อง โทรศัพท์ ทรัพย์สินที่หิ้วมาทั้งหมดฝากใส่ถุงผ้าที่ปิดกุญแจอย่างดี เจ้าหน้าที่จะส่งมอบกุญแจที่มีเลขที่ของถุงฝากให้กับเราเก็บไว้ และแจกหูฟังพร้อมเทปบรรยายแต่ละห้องละจุดให้ทุกคนรับฟังขณะเดินชมภายในทั้งชั้นล่างและชั้นสอง
                                      ทุก ๆ ปีจะเปิดให้เข้าชมในช่วงระหว่างวันที่ 17 ธันวาคม - 31 มีนาคม ทุกวันเว้นวันอาทิตย์ เวลา 10.00 - 17.00 น. โดยต้องทำการนัดล่วงหน้าก่อนเข้าชม ค่าเข้าชมคนละ 150 บาท นักเรียนนักศึกษา 50 บาท รายละเอียดต่าง ๆ สามารถดูจาก www.queensavang.org

                                     หลังพักรับประทานอาหารกลางวันที่ร้านอาหารในวังเสร็จเรียบร้อย ช่วงบ่ายเดินทางต่อไปยังวังพญาไทกัน ไปติดตามกันในตอน II


(เมนูแกงส้มที่ร้านอาหารวังสระปทุมอร่อยมาก)

                             

วันศุกร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

แกงเผ็ดหน่อไม้ใส่ยี่หร่า






                    ติดอกติดใจในความหอมของยี่หร่าเมื่อนำมาเป็นเครื่องปรุงในอาหาร ไม่ว่าจะผัดเผ็ด แกงเผ็ด คั่วแห้ง ก็อร่อยจนลืมอ้วนเลยทีเดียว วันนี้ทำแกงเผ็ดหน่อไม้ใส่ยี่หร่า

เครื่องปรุง

1.หน่อไม้ต้มซอยเป็นเส้น ๆ 1 ถ้วย
2.หมูสันในหั่นชิ้นเล็ก      1/2 ถ้วย (ชอบเนื้อใช้แทนได้)
3.น้ำพริกแกงเผ็ด            1 ชต
4.ใบมะกรูดฉีก 5-6 ใบ
5.น้ำตาล น้ำปลาดี
6.น้ำมันพืช 1 ชต
7.น้ำต้มสุก
8.พริกหยวก พริกหนุ่ม ซอย
9.ผงยี่หร่าคั่ว 1/2 ชช

วิธีทำ

1.ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันพืช ใส่น้ำพริกแกงลงผัดให้หอม ใส่ผงยี่หร่า
2.ใส่เนื้อหมูลงผัดพอสุก ตามด้วยหน่อไม้ซอย
3.เติมน้ำต้มสุกพอขลุกขลิก
4.ปรุงรสด้วยน้ำตาล น้ำปลา
5.ใส่ใบมะกรูด พริกซอย
6.พอเดือดปิดไฟ
7.ทานกับข้าวสวย และไข่ต้มหรือไข่เค็ม

Tips   ยี่หร่ามีประโยชน์ช่วยย่อย ขับลม แก้ปวดท้อง ท้องอืด ท้องเฟ้อ