ปีนี้ได้มีโอกาสไปเที่ยวญี่ปุ่นอีกครั้งหลังจากไปครั้งก่อนเมื่อปี 2013
เมื่อญี่ปุ่นให้โอกาสคนไทยเข้าประเทศโดยไม่ต้องขอวีซ่า เหล่าคนไทยก็หลั่งไหลไปเที่ยวกันมากมาย และไม่มีอะไร hot ไปกว่าเที่ยวเมือง Hokkaido
ฉันเลือกโปรแกรมทัวร์หลายแห่งอย่างลำบากยากเย็น เนื่องจากต้องให้ตรงใจของเรา และตรงกับวันเวลาที่เรากำหนดคือได้เห็นหิมะขาว ๆ จึงได้ไปตอนเดือน กพ.ท่ีผ่านมา (คงไม่นานเกินไปที่จะเล่าเรื่อง)
วันแรกของการเดินทาง
ก่อนเที่ยงคืนของวันแรกที่เดินทาง การบินไทยก็บินพาเราไปยังสนามบิน Chitose บนเกาะฮอกไกโด ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 ชม.เวลาที่นี่เร็วกว่าเมืองไทย 2 ชม.
เกาะฮอกไกโดอยู่ตอนเหนือสุดของประเทศ ติดกับรัสเซีย อากาศจึงหนาวเย็นมาก เป็นเกาะใหญ่อันดับสองของประเทศ มีเมืองหลวงคือ Sapporo
ภายในบริเวณสนามบินมีสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นที่ชื่นชอบของเด็ก ๆ นั่นคือ Doraemon Wakuwaku Sky Park ให้แฟน ๆ ได้ถ่ายรูปกับเหล่าการ์ตูนดังโดราเอมอนและผองเพื่อน
ออกจากสนามบินเดินทางเข้าสู่ตัวเมือง ซับโปโร ที่มีประชากรหนาแน่นเป็นอันดับ 5 ของญี่ปุ่น สองข้างทางขาวโพลนด้วยหิมะที่ตกลงมาปกคลุมบ้านเรือน
มาเริ่มกันที่ศาลาว่าการหรือทำเนียบรัฐบาลเก่าของเมือง เก่าแก่สร้างมาตั้งแต่ปี คศ.1873 และบูรณะซ่อมแซมให้อยู่ในสภาพดีเพื่อเป็นอนุสรณ์ทางวัฒนธรรม ภายในอาคารมีการจัดแสดงรูปภาพต่าง ๆ ประวัติความเป็นมาของเกาะแห่งนี้
อีกหนึ่งสถานที่ที่นักท่องเที่ยวทุกคนพลาดไม่ได้ที่จะต้องมาชม คือหอนาฬิกาโบราณ ที่มีอายุมากว่า 130 ปี เห็นเก่าแก่อย่างนี้ยังบอกเวลาเที่ยงตรงเป๊ะ
จบวันแรกด้วยการไปชมพิพิธภัณฑ์เบียร์ Sapporo แห่งแรกและหนึ่งเดียวของญี่ปุ่น ตัวอาคารสร้างด้วยอิฐแดง อดีตคือโรงงานผลิตเบียร์ ตั้งแต่ปี คศ. 1877 และปรับปรุงเป็นพิพิธภัณฑ์ในปี คศ.1987 โดยเปิดให้เข้าชมฟรี
ภายในแบ่งเป็น 3 ชั้น จัดแสดงนิทรรศการการผลิต ความเป็นมาของเบียร์ Sapporo ตามฝาผนังประดับโปสเตอร์โฆษณาจากอดีตจนยุคปัจจุบัน
ตอนหน้าไปเที่ยวโรงงานช็อคโกแลต