วันจันทร์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2556

9 วันในฝรั่งเศส - III Tour Eiffel





16 กย.56 บ่าย ไปชมหอไอเฟล

                    หอไอเฟล ( Tour Eiffel) ตั้งอยู่ในเขต 7 ของปารีส ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1889 โดยนาย กุสตาฟ ไอเฟล ด้วยโครงสร้างเหล็กที่มีความสูงกว่า  300 เมตร หรือราวตึก 105 ชั้น ถือเป็นสัญญลักษณ์ของเมืองปารีสหรือของประเทศฝรั่งเศสที่นักท่องเที่ยวทุกคนต้องมาชม

                    ในปี ค.ศ. 1980 ได้มีการติดตั้งลิฟท์ ทั้ง 4 ด้านฐานของหอไอเฟล เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ขึ้นชมความงดงามจากบนหอได้อย่างสะดวกสบาย แต่เสียตังค์ นะจ๊ะ ไม่ใช่ฟรี ๆ โดยมีค่าตั๋วในแต่ละช่วงความสูง  3 ราคาคือ  4 , 8.5 ,14.5 ยูโร หรืออยากออกกำลังเดินขึ้นบันได 1,652 ขั้น ก็ยังต้องเสียเงิน 5 ยูโร แถวซื้อตั๋วจะยาวมากในช่วงเทศกาล หากจะเลี่ยงให้ไปแต่เช้า 9 โมง หรือค่ำ ๆ แต่ต้องก่อน 5 ทุ่ม เปิดทุกวัน

                     การเดินทาง นั่งเมโทรสาย 6 ลงสถานี Trocadero  , Passy หรือ  Champ de Mars  Tour Eiffel สถานีใดได้ทั้งนั้น เห็น Eiffel แน่นอน ลงสถานีปั๊บ ก็จะถูกรุมด้วยเหล่านักขายของที่ระลึกชาวนิโกรมากมาย  ส่วนใหญ่จะขายแต่พวงกุญแจ หากต่อเก่ง ๆ อาจได้ถึง 7 อันต่อ 1 ยูโร แถมบางคนพูดไทยได้อีกต่างหาก จะมาดูกลางวันหรือดูยามค่ำคืน ก็สวยและขลังทั้งสิ้น แถมมีวิวสวย ๆ เป็นคู่บ่าวสาวทนหนาวเหน็บมาถ่าย Pre-Wedding กันหลายคู่ สงสารเจ้าสาวชุดเกาะอกกับอุณหภูมิ 10 กว่า ๆ และฝนพรำ ๆ แต่เพื่อความสุขความสวยเธอยอมทน









                                                       ถ่ายจากบนชั้นสองยามค่ำคืน
Tips
                    ว่าจะแนะนำการซื้อตั๋วเมโทร ที่สะดวกที่สุดคือ ซื้อแบบ carnet 10 ใบ ราคา 13.3 ยูโร ประหยัดกว่าแบบซื้อทีละใบในราคาใบละ 1.7 ยูโร ซื้อจากเจ้าเครื่องอัตโนมัติที่สถานีนั่นแหละ อ่านขั้นตอนจากหน้าจอ เลือกภาษาอังกฤษ หยอดเงินหรือการ์ด ตั๋วก็จะหล่นออกมาทีเดียว 10 ใบ ใช้ได้ไม่มีหมดอายุ หน้าตาตั๋วเหมือนของ RoissyBus เปลี่ยนแต่พิมพ์ว่า carnet แทน  ที่ฝรั่งเศสค่าโดยสารนับเป็นเที่ยว จะต่อ Metro กี่ขบวนก็ตาม ใช้ใบเดียวจนออกพ้นจากสถานี







  

วันเสาร์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2556

9 วันในฝรั่งเศส - II Paris








                   
                         หลังจากศึกษาข้อมูลต่าง ๆ มาอย่างมากมาย ทั้งรีวิว ทั้งคู่มือหนังสือต่าง ๆ ก็เริ่มเดินทางกันเลย

16 กันยายน 56

                         กับ 12 ชั่วโมงบนเครื่องบินการบินไทยพร้อมอาหาร 2 มื้อ ก็มาถึงสนามบิน Charles de Gaulle (CDG) Terminal 1 ตอน 7 โมงเช้าของปารีส  ผ่าน ตม.ที่เป็น Police พร้อมรับกระเป๋าสัมภาระมากมาย ก็ลงความเห็นว่าจะใช้บริการ Roissybus เพราะคนขับจะรอจนผู้โดยสารทุกท่านขนกระเป๋าขึ้นรถหมดทุกคนถึงออกรถได้ ถ้าขึ้น Metro ประตูอาจหนีบเพราะขนกระเป๋าไม่เสร็จ แต่คนใช้บริการ Roissybus เยอะมาก เผลอ ๆ อาจต้องยืนหรือนั่งบนกระเป๋าเดินทางไปประมาณ 45-60 นาทีจนสุดสายที่  Opera กลางเมือง(รวดเดียวไม่มีจอด) วิธีการคือ เดินไปตามป้ายชี้บอกทาง Roissybus ออกประตูมาอาคารจะอยู่ฝั่งตรงข้าม ซื้อตั๋วจากเครื่องอัตโนมัติคนละ 10 ยูโร ใส่เงินให้พอดีหรือใช้เหรียญ เพราะถ้าใส่ธนบัตร เครื่องจะทอนออกมาเป็นเหรียญร่วงกราวมาก โดนมาแล้ว แถมเด็กฝรั่งแอบอมยิ้ม



                                                       หน้าตาเจ้าตั๋ว RoissyBus
   


                                                         ขอบคุณภาพจาก  Google

                     
                          4 คืนแรกในปารีส เราพักในแถบเขต 16  ปารีสจะแบ่งเขตเมืองออกเป็น 20 เขต เขตต้น ๆ จะเป็นใจกลางปารีส และเขยิบไกลออกไปจนถึงเขตสุดท้าย ดูจากเลขท้ายรหัสไปรษณีย์ของเขาได้ว่าใครอยู่เขตไหน เช่น 75016 ก็คืออยู่เขต 16 



                                         ขอบคุณภาพจาก คุณหมูอ้วนจอมพลังแห่ง pantip




                          


                        

                           ไม่ผิดหวังที่เลือกที่นี่ มี Metro อยู่ข้าง ๆ โรงแรม มีตลาดนัดทุกวันจันทร์ อังคาร พฤหัส มีร้านอาหารจีน ฝรั่ง supermarket ครบครัน สะดวกสุด ๆ 









                         บรรยากาศตลาดนัดของฝรั่ง มีทุกอย่าง เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า อาหารสด ผักสดผลไม้ ดอกไม้ต้นไม้ เสียดายไม่มีครัว ไม่อย่างนั้นซื้อของสด ๆ ทำเองสบาย ๆ 

                         check-in เรียบร้อยก็ออกท่องเที่ยวทันที บ่ายนี้จะไปเที่ยวชมสัญญลักษณ์แห่งปารีส นั่นคือ หอไอเฟล (Eiffel)  โปรดติดตาม

วันจันทร์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2556

9 วันในฝรั่งเศส -I เตรียมพร้อม




(หอไอเฟล ภาพจากวิกิพีเดีย)

                            เชื่อว่าหลาย ๆ คนต้องมีฝันว่าสักครั้งหนึ่งเราต้องไปเที่ยวฝรั่งเศสให้ได้ ฝรั่งเศส เมืองปารีส เมืองหลวงแห่งแฟชั่น งานศิลป สถาปัตยกรรมเก่าแก่ หอไอเฟล แวร์ซายส์ ประตูชัย มากมายหลายหลากที่น่าไปเห็นด้วยตาตนเอง

                            การท่องเที่ยวฝรั่งเศสด้วยตนเอง จำเป็นที่สุดต้องทำวีซ่าเพื่อเข้าประเทศ  โดยเตรียมเอกสารสำคัญยื่นผ่านหน่วยงาน TLS contact ตัวแทนรับยื่นวีซ่าให้กับสถานเอกอัคราชฑูตฝรั่งเศส โดยเสียค่าธรรมเนียมและรอลุ้นรับเล่ม passport คืนกลับมาเพื่อทราบผลวีซ่าว่าผ่านหรือไม่ เอกสารสำคัญเหล่านั้น ได้แก่

1.ใบสมัครขอวีซ่า พร้อมลงนาม 2 จุด
2.รูปถ่ายสีเห็นใบหน้าชัดเจน ขนาด 3.5 ซม. x 4.5 ซม. 2 รูป
3.passport ตัวจริงและสำเนา(มีเล่มเก่าแนบไปด้วย)
4.สำเนาใบจองตั๋วเครื่องบิน ไป-กลับ
5.ประกันภัยการเดินทางครอบคลุมวันเดินทางทั้งหมด วงเงินประกันมากกว่า 1.5 ล้านบาท
6.สำเนาการจองที่พักตลอดเวลาที่เดินทาง
7.จดหมายรับรองการทำงาน(หากทำงานเป็นลูกจ้างเขา) หากเกษียนอายุก็ขอหนังสือรับรองจากบริษัทที่ทำล่าสุดก่อนออก
8.สำเนา Slip เงินเดือน 3 เดือนล่าสุดภาษาอังกฤษ
9.statement บัญชีออมทรัพย์ย้อนหลัง 3 เดือนล่าสุดพร้อมหนังสือรับรองการเป็นเจ้าของบัญชีพร้อมสำเนา

         เอกสารทุกชนิดต้องเป็นภาษาอังกฤษหรือฝรั่งเศสเท่านั้น และพิมพ์บนกระดาษ A 4

หาจนครบหมดแล้ว ทำการลงทะเบียนนัดหมายกับ TLScontact ได้วันเวลาใด ก็นั่งรถไฟใต้ดินไปลงสถานีลุมพินี(สะดวกกว่าขับรถไปเองเยอะ) ออกจากสถานีทางออก 2 ถนนสาธรใต้ หากเป็นนักกีฬาก็ใช้วิธีเดินเอา (แต่ไกลเอาการอยู่) สาธรซอย 7 เป็นที่ตั้งของอาคารสาธรซิตี้ เดินเข้าไปแลกบัตรเพื่อขึ้นลิฟท์ไปชั้น 12 อันเป็นที่ทำงานของ TLScontact  นั่งรอคิวบนหน้าจอ ยื่นเอกสารให้ตรวจเรียบร้อย จ่ายค่าธรรมเนียม (ประมาณ เกือบ 4,000 บาท เตรียมไปเลย) กลับบ้านรอคอย sms แจ้งให้มารับ passport ถ้าขี้เกียจมาอีกครั้ง เขามีบริการส่งทาง ปณ.คนละ 180 บาทค่ะ









                             ใช้เวลาไม่เกิน 10 วันทำการก็เรียบร้อยแล้วค่ะ


   Update  ปัจจุบันผู้ยื่นขอวีซ่าต้องไปสแกนนิ้วมือทั้งสิบด้วยตนเองเพื่อเก็บเป็นหลักฐาน โดยหลังผ่านขั้นตอนตรวจเอกสาร ต้องเดินไปยังจุดที่สแกนลายนิ้วมือ และชำระเงินค่าบริการ

                  ใครที่รูปถ่ายไม่ผ่าน ต้องทำการถ่ายรูปใหม่ ที่นี่มีบริการตู้ถ่ายรูปอัตโนมัติ รวดเร็วทันใจในพริบตาแต่ราคาก็หนักเอาการ 250 บาท ได้มา 4 รูป (ธรรมชาติไร้การตบแต่งแบบบัตรประชาชน ไม่สวยหล่อจริงต้องปลง 555 )

  
                        

วันศุกร์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2556

กุ้งกระเทียมพริกไทย





                               เมนูนี้ถือว่าง่ายสุด ๆ ในการทำ แต่จะอร่อยหรือไม่นั้นไม่ง่ายอย่างที่คิด

เครื่องปรุง

กุ้งสดปอกเปลือกเหลือแต่หาง ผ่าหลังเอาเส้นดำออก
กระเทียมปอกเปลือก ซอยบาง ๆ หรือจะสับพอหยาบ (มากน้อยตามชอบ)
พริกไทยป่น
ซีอิ๊วขาว
น้ำตาลทราย
ซอสปรุงรส
น้ำมันพืช

วิธีทำ

1.หมักกุ้งกับซีอิ๊วขาว พริกไทยป่น น้ำตาลทรายนิดหน่อย กระเทียมสับนิดหน่อย ซีอิ๊วขาว พักไว้ครึ่งชั่วโมง
2.กระเทียมสับที่เหลือ หมักกับพริกไทยป่น ซอสปรุงรส 10 นาที
3.ตั้งน้ำมันในกะทะ พอร้อนได้ที่ ใส่กระเทียมที่หมักไว้ลงเจียวจนเหลืองกรอบ ตักขึ้นไว้ข้างจาน
4.น้ำมันเดิม ใส่กุ้งลงทอดพอสุก อย่านานไปจะเหนียวไม่อร่อย กุ้งไม่ชอบ
5.ตักขึ้นใส่จานอีกด้านหนึ่ง
6.เสิร์ฟพร้อมข้าวสวยร้อน ๆ กับน้ำปลาพริกมะนาว หรือซอสพริก ตามชอบ