วันอาทิตย์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

หนาวเหน็บติดลบที่ฮอกไกโด ตอนจบ







                เที่ยวหุบเขานรก Jikogudani ที่ Noboribetsu

                                  Noboribetsu  เป็นสถานที่ตากอากาศที่มีชื่อเสียงของประเทศญี่ปุ่นและเกาะฮอกไกโด เนื่องจากมีบ่อน้ำพุร้อนหลายแห่ง แต่ที่ยอมรับกันว่าสวยงามที่สุด คือ บ่อน้ำพุร้อน Jikogudani หรือเรียกอีกชื่อคือ  Hell Valley



         

                                Jikogudani เป็นชื่อของภูเขาไฟ ที่ปล่อยกำมะถันออกมา เกิดเป็นธารน้ำร้อนและไอน้ำร้อนเดือดคุกรุ่นอยู่ทั่วไปภายในบริเวณหุบเขา  น้ำร้อนนี้ได้ไหลไปทั่วเมือง Noboribetsu  ทำให้เกิดไอเดียทำสถานที่ Onsen ไปทั่วเมืองเป็นที่ชื่นชอบของชาวญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวต่างถิ่น





                                 เนื่องจากช่วงที่เดินทางไปเป็นฤดูหนาว หิมะตกขาวโพลนไปทั่ว จึงเห็นวิวขาวสลับส้มของดินบริเวณธารน้ำร้อน  หากมาช่วงเดือนตุลาคม คงจะได้เห็นใบไม้เปลี่ยนสีสวยงามกว่านี้

                                 จากภาพหากเดินลงไปตามสะพานไม้ไปเรื่อย ๆ จนสุดทาง จะพบตัวบ่อกำมะถันร้อนเดือดขนาดประมาณ 50 ํ - 80 ํ C กลิ่นฉุนของกำมะถันลอยขึ้นมา ต้องหาผ้าปิดจมูกและปาก หากพลาดพลั้งตกลงไปบอกไม่ถูกว่าจะเป็นยังไงเลยทีเดียว

                                ปิดท้าย Trip โดยการขึ้นกระเช้า Usuzan Ropeway ไปชมวิวทิวทัศน์อันหนาวเหน็บบนยอดภูเขาไฟโชวะ ซึ่งจะมีการปะทุขึ้นทุก ๆ 20 - 50 ปี ล่าสุดปะทุในปี คศ.2000 รัฐบาลญี่ปุ่นจัดให้สถานที่นี้เป็นอนุสรณ์ทางธรรมชาติ  ค่าขึ้นลงกระเช้าคนละประมาณ 1,500 เยน เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 09.00 - 16.00 น.





                               นักท่องเที่ยวเกือบ 100 คนในกระเช้า นั่งบ้างยืนบ้างไป 6 นาทีก็ถึงสถานียอดเขา จะมีบริการให้ยืมเสื้อคลุมกันหนาว(มากกก) เพื่อออกไปลุยหิมะชมวิวแบบพาโนรามาภายนอก ทั้งหนาวทั้งลมแรงทั้งต้องระวังลื่นล้มขณะเดินต้องระวังเป็นอย่างยิ่ง

                                จบทริปฮอกไกโดด้วยการแช่ออนเซ็นร้อน ๆ คลายหนาว กับปูอลาสกาขาใหญ่ยักษ์เต็มอิ่ม กว่ารีวิวสุดท้ายเขียนเสร็จ  ก็ย่างเข้าหน้าหนาวอีกครั้งพอดี




(แนะนำให้เที่ยวในฤดูใบไม้เปลี่ยนสี จะได้ภาพสวยงามมีสีสันกว่านี้มากค่ะ)