วันอาทิตย์ที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2557

France - Italy -Swiss part II - VIII Verona ตามหา Juliet





Juliet in the courtyard (Thanks for The Hotel)


    27 กุมภาพันธ์ 2557

                         หลังจาก check out จากโรงแรม Mia Cara แล้ว ก็เดินทางไปยังสถานีรถไฟ Firenze Campo di  Marte สถานีรถไฟใหญ่อันดับสองของ Florence ตั้งอยู่ถนน Via Mannelli เพื่อไปยังเมือง Verona ที่อยู่ตอนเหนือของ Italy  งานนี้เดินลากกระเป๋าไปไม่ไหว คงจะเดินกันกว่าครึ่งชั่วโมง ต้องใช้บริการ Taxi ใช้เวลาเพียง 10 นาที เนื่องจากรถไฟ SNCF ไป Verona ต้องขึ้นที่สถานีนี้ (ค่ารถไฟที่จองจากเมืองไทยมาคนละ 37 ยูโร)





                         รถไฟใช้เวลาชั่วโมงครึ่งก็มาถึงสถานี Verona Porta Nuova  ลากกระเป๋าเดินออกจากสถานีทางชานชลาที่ 4 หากกระเป๋าหนักมากใช้บริการลิฟท์ในสถานีได้ ออกมามองหาป้ายบอกทางไปเข้าคิวเรียก Taxi  คืนนี้เราจะนอนที่บ้าน Juliet  กับ Hotel Relais De Charme II Sogno Di Giulietta  ถนน Cappello (www.sognodigiulietta.it)









บันไดทางเข้าโรงแรมที่พักภายในลานบ้านJuliet



จากระเบียงห้องพักสามารถมองลงมาเห็นลานบ้าน Juliet 

                         10 นาทีก็มาถึงยังสถานที่ยอดฮิตของเมือง Casa di Giulietta   บ้านเลขที่ 23 ของ juliet  จะอยู่ซอยทางซ้ายมือ รถจะเข้าไม่ถึง ต้องเดินประมาณ 100 เมตร ผ่านประตูรั้วเข้าไป ประตูนี้จะปิดเวลา 19.30 น.ทุกวัน แต่เราพักในนี้ ได้สิทธิชื่นชมไปตลอดทั้งคืน บ้านหลังนี้ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 13 ภายในลานบ้านพบนักท่องเที่ยวมากมาย แต่ไม่เห็นคุณ Juliet จึงได้ทราบข่าวร้ายว่าเธอถูกยกไปซ่อมแซมกว่าจะกลับมาอีกเป็นเดือน เศร้าเลย ไม่ได้แตะหน้าอกเธอ (ตามความเชื่อ หากได้ลูบนม Juliet จะโชคดีในเรื่องรัก) ได้แต่เห็นระเบียงบ้าน



๋Juliet เหลือตัวแค่นี้ เศร้าใจ



ระเบียงยอดฮิตที่คุณ Romeo ปีนขึ้นไปหาน้อง Juliet




ความเชื่อของคู่รักที่ต้องนำกุญแจมาคล้องเอาไว้

                         หลังจากผิดหวัง ก็ check in เข้าห้องพัก และออกเดินเล่นชมเมือง ที่นี่เดินเท้าเที่ยวได้อย่างสบาย เมืองเล็กนิดเดียวค่ะ  ออกจากบ้าน Juliet ให้เดินไปทางขวา ตรงไปไม่เกิน 20 ก้าว ถึงจตุรัสเมือง Piazza Erbe 



ร้านอาหารพื้นเมืองใกล้ที่พักที่หมายตาไว้คืนนี้




  



                 
                              Piazza della Erbe เป็นลานขายของที่ระลึก ร้านค้าเป็นซุ้มหลังคาผ้าใบ ทุกร้านขายของเหมือน ๆ กันไปหมด ต่อรองราคากันเอง คนขายส่วนใหญ่เป็นชาวจีน ว่ากันว่าของที่ระลึกต่าง ๆ ที่นำมาขายมีแหล่งผลิตจากจีนแทบทั้งสิ้น




หอคอย Lamberti

                                ทางขวามือจะเห็นหอคอย Lamberti เป็นหอสูงที่ยอดมีระฆัง ใครอยากขึ้นไปชมวิวเมืองจากมุมสูง  ต้องจ่าย 4 ยูโรค่ะ แล้วมีลิฟท์พาขึ้นไป


Arena เก่าแก่ที่สุดของเมือง

                              เดินต่อไปทางด้านเหนือของ Piazza della Erbe  ตรงไปตามถนน Mazzini จะพบกับ Arena หินอ่อนสีชมพูของเมือง ที่นี่ถือว่ายิ่งใหญ่เป็นอันดับสามของอิตาลี ปัจจุบันใช้เป็นที่แสดง Opera Concert  จุผู้ชมได้ 25,000 คน ภายในเสียค่าเข้าชมค่ะ คนละ  6 ยูโร 


ภายใน Arena




ภายใน Arena ถ่ายจากจุดสูงสุด


ด้านหลังความเก่าแก่ของ Arena เป็นความทันสมัยของแหล่ง shopping

                                 ส่วนด้านข้าง  Arena    คือ ศาลาว่าการเมือง   Palazzo Barbieri  และกำแพงเมืองโบราณ สวนหย่อม น้ำพุ รูปปั้น    บริเวณนี้เรียก Piazza Bra   










ศาลาว่าการเมือง






                              เดินลัดเลาะไปจนถึงริมแม่น้ำ Adige  เห็นหนุ่มสาวชาว Verona หลายคู่ บรรยากาศช่างเป็นใจจริง ๆ  





โบสถ์เก่าแก่ริมแม่น้ำ

                           
                             หลังอาหารเย็นกลับเข้าบ้าน Juliet  ด้วยการกด password เข้าประตูรั้ว คืนนี้ต้องเลือกเมนูอาหารเช้าฟรีที่ทางโรงแรมจะนำมาเสิร์ฟถึงในห้องพักตามเวลาที่เรากำหนด บอกต่อกันมาว่า ครัวซองที่นี่อร่อยมากกกกกก สั่งกี่ชิ้นก็ได้ ถ้าทานไหว เลือกเสร็จก็นำไปแขวนหน้าประตูห้องด้านนอก เป็นอันเสร็จเรียบร้อย พรุ่งนี้เช้ารอดูผลงานที่เลือกกัน




วันอาทิตย์ที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2557

France - Italy - Swiss Part II - VII Florence วันที่สอง






26 กุมภาพันธ์ 2557

                                  วันนี้ฝนตกจริงตามพยากรณ์อากาศ เราเดินออกจากโรงแรมมายังหน้าสถานีรถไฟ S M N มองไปยังฝั่งตรงข้ามสถานี จะเห็นโบสถ์ Santa Maria Novella สร้างในสมัยศตวรรษที่ 13 ที่กล่าวกันว่าสวยที่สุดในเมืองนี้ 

                                 อาศัยบริการ City Sightseeing Bus นั่งชมเมืองให้ทั่ว กลัวตกหล่น อีกอย่างฝนตกด้วย เดินไปไหนเองจะลำบาก จุดขึ้นลงบัสอยู่ใกล้สถานีรถไฟ ซื้อตั๋วได้เลยจากเจ้าหน้าที่ขายตั๋วก่อนขึ้นบัส จะเลือกแบบ 1 วัน หรือ 2 วันก็ตามใจ


ภายในรถ City Sightseeing Bus วันฝนพรำ โล่งสุด ๆ


                                 รถพาเราขึ้นไปยังเนินเขา Piazzale Michelangelo ทางฝั่งใต้ของแม่น้ำ Arno ที่เป็นจุดชมวิวที่เยี่ยมที่สุดของ Florence ได้เต็มเมืองแบบ Panorama กลางลานหรือ Square จะเห็นรูปปั้นคุณ David ปลอม ตั้งตระหง่าน (ไปที่ไหนก็เจอคุณคนนี้)  เป็นจุดยอดนิยมในการมาถ่ายรูปอีกจุดหนึ่ง มองไปจะเห็นสะพาน Vecchio ที่ไปเดินมาเมื่อวาน













                                 ระหว่างยืนคอยรถบัสคันถัดไปเพื่อไปต่อ ท่ามกลางฝนตกพรำ ๆ ฝั่งตรงข้ามเห็นร้านกาแฟเลยถือโอกาสจิบช็อคโกแลตร้อน ๆ แก้หนาวฆ่าเวลา ใครอยากใช้บริการสุขาสาธารณะ (เสียเงิน) เดินอ้อมไปทางด้านหลังค่ะ แต่ในร้านก็ขอเข้าได้ เพราะเราจ่ายเงินค่าน้ำแล้ว



ที่ที่เราไปแวะจิบกาแฟช็อคโกแลตร้อน ๆ




ถ้วยละ 7 ยูโร แถมคุ๊กกี้ 2 เม็ด






ดอกไม้สวย ๆ ปลูกข้างหน้าต่างร้าน
               
                  นั่งบัสต่อ แวะลงที่ Palazzo Pitti  ซึ่งในอดีตตั้งแต่ปี คศ.1550 เคยเป็นวังของตระกูลดังของ Florence ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์เก็บงานศิลป (เสียค่าเข้าชม)









                             ฝนหยุดตกแล้ว จุดสุดท้ายที่ผ่านคือ โบสถ์ประจำตระกูลดัง (อีกแล้ว ที่Florence มีตระกูลใหญ่เก่าแก่ที่ดังและทรงอิทธิพลมากสุดคือ Medici ) เป็นที่เก็บสมบัติ งานศิลป ที่เก็บศพของตระกูล และห้องสมุดที่มีหนังสือกว่า 10,000 เล่ม ส่วนใหญ่ออกแบบตบแต่งโดย Michelangelo (เสียค่าเข้าชมทั้งหมด)





                            หาอะไรอร่อย ๆ ทานส่งท้ายเมือง Florence พรุ่งนี้เราจะนั่งรถไฟต่อกันไปยังเมืองของคุณ Romeo & Juliet 


วันอาทิตย์ที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2557

France - Italy - Swiss part II - VI Florence






25 กุมภาพันธ์ 2557

                                         เดินต่อไปทางใต้ของ Duomo บนถนน de Calzaioli จะเห็นตึกอิฐคล้ายป้อมปราการและมีหอนาฬิกา ที่นี่คือ ลาน Piazza Della Signoria  ส่วนตึกและหอนาฬิกาคือ Palazzo Vecchio เดิมเป็นวังของตระกูลใหญ่ของ Florence ปัจจุบันใช้เป็นศาลาว่าการ ใครที่อยากชมงานประติมากรรมแบบไม่เสียเงิน จะดูได้ที่ลานแห่งนี้ ทั้งรูปปั้นเดวิด (ปลอม)  เพอซิอุสถือหัวนางเมดูซ่า รูปปั้นเฮอคิวลิส น้ำพุเทพเจ้าเนปจูน ฯลฯ














ภายในอาคาร





                              เดินชมบรรยากาศเมือง Florence ไปจนถึงสะพาน Vecchio  ที่พาดผ่านแม่น้ำ Arno สะพานนี้ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1345 เป็นสะพานเก่าแก่ที่สุดสะพานเดียวของเมือง ริมสองฟากสะพานเป็นร้านค้าขายทอง เพชร และอัญมณี เป็นส่วนใหญ่ นักท่องเที่ยวจำนวนมากนิยมมาถ่ายภาพยามพระอาทิตย์ใกล้ลับขอบฟ้าบนสะพานนี้



วิวฝั่งตะวันตกมองจากบนสะพาน
  
               
วิวมองไปทางตะวันออก



สองข้างสะพานเรียงรายด้วยร้านเพชร
   
     ค่ำนี้ไปฝากท้องกับร้านอาหารเก่าแก่ตั้งแต่ปี คศ.1939 Le Fonticine อยู่ใกล้โรงแรมที่พัก  (ถนน Faenza ตัดกับถนน Nazionale )  ทานอิ่มเข้าที่พัก พรุ่งนี้พยากรณ์อากาศว่าฝนตกทั้งวัน แต่ก็ไม่หวั่น