วันอาทิตย์ที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2556

Japan on Tour I - สุวรรณภูมิ - คันไซ




Day 1  25 Mar 13



                            ทุก ๆ ปิดเทอม จะมีโอกาสได้ท่องเที่ยวไปที่ต่าง ๆ หลาย ๆ วัน เลือกที่จะไปไม่ตรงกับเทศกาล กลัวคนเยอะ แย่งกันซื้อ เบียดกันกิน ครั้งนี้เลือกไปประเทศญี่ปุ่น ที่ยังไม่เคยไปเลย ต้องใช้บริการของบริษัททัวร์อำนวยความสะดวกให้กับเรา เพราะได้ยินคำขู่ว่า หากไปเอง เดี๋ยวจะหลงกับขบวนรถไฟใต้ดินบนดินได้ง่าย ๆ เนื่องจากภาษาอังกฤษในญี่ปุ่นไม่ค่อยพูดและป้ายต่าง ๆ แม้แต่ตามร้านอาหารก็ไม่มีซะเป็นส่วนใหญ่ ต้องลองไปกับทัวร์ก่อน แล้วค่อยลุยเองทีหลัง (ยังหวังไว้)



แผนที่ญี่ปุ่นจากเวบ jeducation

                          เขาแนะนำว่าเที่ยวญี่ปุ่นควรจะไปเป็นภาค ๆ เหนือลงใต้ ใต้ขึ้นเหนือ เที่ยวภาคกลาง อย่างใดอย่างหนึ่ง เพราะแต่ละพื้นที่ของญี่ปุ่นมีที่ท่องเที่ยวมากมาย ครั้งเดียวเที่ยวไม่หมด นอกจากคุณจะว่างยาวสัก 30 วัน ลุยไปเลยทั้งประเทศ

                          สุดท้ายก็มาลงที่โปรแกรม  Takayama  Shirakawa-Go ดูความเก่าแก่เมืองมรดกโลก แล้วค่อยกลับไปดูแสงสีความสดใสของเมือง Tokyo ในช่วงวันท้าย ๆ 

                          จากสนามบินสุวรรณภูมิ ประมาณเที่ยงคืนยี่สิบนาที นั่งเครื่องยาวไปประมาณ 5 ชั่วโมงกว่า ๆ  ก็ถึงสนามบิน Kansai  เมือง Osaka  สนามบินอันเก่าแก่มาเกือบ 19 ปีของญี่ปุ่น ที่เกิดจากการถมพื้นน้ำทะเลขึ้นมาเป็นแผ่นดิน เป็นสนามบินอันกว้่างใหญ่ไพศาลด้วยฝีมือมนุษย์กว่า 10,000 คน 






pic.from wikipedia

                         


                              เก้าโมงเช้าของ Osaka เรามุ่งหน้าไปเริ่มต้นกันที่เมือง Nara กัน





                         

วันศุกร์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2556

เต้าหู้เย็นราดซอส








                 เมนูอาหารเพื่อสุขภาพ ต้องนี่เลย เต้าหู้

เครื่องปรุง

เต้าหู้ญี่ปุ่น 2 กล่อง

ซอสโชยุ
น้ำมันงา
พริกชี้ฟ้าแดงสับละเอียด
ต้นหอมซอย
น้ำมันพริกเผา
ปลาโอป่น
หมูสับนิดหน่อย

วิธีทำ

1.เต้าหู้ญี่ปุ่นแกะออกจากกล่อง เทน้ำทิ้ง หั่นชิ้นสี่เหลี่ยมเรียงใส่จานแช่ไว้ในตู้เย็น
2.ผัดหมูสับกับน้ำมันงาและน้ำมันพริกเผาให้สุก
3.เวลาจะทาน นำเต้าหู้ออกจากตู้เย็นโรยหน้าด้วยหมูสับ ซอสโชยุ พริกชี้ฟ้าแดงสับ ปลาโอป่นและต้นหอมซอย









วันพฤหัสบดีที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2556

ปลาอินทรีทอดซอสสลัด








                            ปลาอินทรีสด ๆ ต้องทอดแล้วทานทันที เขาบอกมา

เครื่องปรุง

             ปลาอินทรีสดหั่นแว่น  ซีอิ๊วญี่ปุ่น งาขาวคั่ว น้ำมันพืช ผักสลัดต่าง ๆ  น้ำสลัดชนิดน้ำใส

วิธีทำ

1.ล้างปลาให้สะอาด หมักเกลือป่นนิดหน่อยพักไว้
2.ตั้งกะทะ ทอดปลาให้สุก ตักใส่จานพักไว้
3.ผสมน้ำสลัดโดยใช้น้ำตาลทราย เกลือป่น พริกไทยดำป่น น้ำส้ม Apple cider น้ำมันมะกอก และน้ำร้อนนิดหน่อย คนให้เข้ากัน ชิมรสออกเปรี้ยวหวาน
4.โรยงาขาวและซีอ๊ิวญี่ปุ่นบนปลาทอด เคียงด้วยผักสลัดและราดด้วยน้ำสลัดเป็นอันเสร็จ







(ขอขอบคุณร้านอาหาร ทิปปี้ เจ้าของสูตร)




วันพุธที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2556

แกงคั่วสับปะรดกุ้ง








                            อยากทานแกงคั่วสับปะรดหอยแมลงภู่ แต่หาซื้อหอยไม่ได้ จึงกลายร่างมาเป็นกุ้งแทน ซึ่งหาซื้อง่ายกว่า

เครื่องปรุง

1.สับปะรดหั่นชิ้นเล็ก ๆ
2.กุ้งสดปอกเปลือกผ่าหลัง
3.น้ำพริกแกงเผ็ด
4.กะทิ
5.น้ำตาลปี๊บ
6.น้ำปลา
7.ใบมะกรูดฉีก พริกชี้ฟ้าแดงซอย

วิธีทำ

1.ผัดน้ำพริกแกงกับหัวกะทิให้หอม
2.ใส่สับปะรดลงผัด
3.เติมกะทิที่เหลือและน้ำต้มสุก 1 ถ้วย เคี่ยวพอสับปะรดเปื่อยนิดหน่อยพอ
4.ปรุงรสหวาน เค็ม ถูกใจแล้วตามด้วยกุ้งสด
5.พอเดือดใส่ใบมะกรูด พริกชี้ฟ้าแดง ดับไฟ
6.ตักใส่ชามพร้อมเสิร์ฟ


วันอังคารที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2556

ยำตะไคร้ปลาดอร์ลี่







                        เมนูเพื่อสุขภาพกับตะไคร้  ยำตะไคร้ปลาดอร์ลี่


เครื่องปรุง

1.ปลาดอร์ลี่แร่ 3 ชิ้น หั่นขวางชิ้นพอคำเคล้าเกลือป่นนิดหน่อยพักไว้
2.ขนมปังป่น 1 ถ้วย
3.น้ำตาลปี๊บ 1 ชช
4.น้ำปลาดี 2 ชช
5.มะนาว 2 ลูก
6.พริกขี้หนูสวนซอย 10 เม็ด
7.ตะไคร้ซอย 5 ต้น
8.หอมแดงซอย 5 หัว
9.หมูยอลวกหั่นชิ้นเล็ก 1 แท่ง (จะไม่ใส่ก็ได้ตามชอบ)
10.ผักกาดแก้วล้างสะอาดเด็ดเป็นใบ ๆ
11.น้ำมันพืช
12.ผักชีฝรั่งซอย 5 ใบ 

วิธีทำ

1.ปลาดอร์ลี่ชุบเกล็ดขนมปังทอดจนเหลืองกรอบ พักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน
2.ทำน้ำยำโดยผสมน้ำตาลปี๊บ น้ำปลาดี และน้ำต้มสุกนิดหน่อย ตามด้วยพริกขี้หนูซอย น้ำมะนาว
3.ผสมทุกอย่างในชามคลุกยกเว้นปลาดอร์ลี่ทอดกรอบ คลุกเคล้าให้เข้ากันชิมรสจัดจ้าน
4.เวลาจะทาน เรียงผักกาดแก้วรองก้นจาน ตามด้วยปลาดอร์ลี่ และราดหน้าด้วยน้ำยำหมูยอพร้อมเสิร์ฟ






วันพฤหัสบดีที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2556

Pork Taco







                          มาแปลงโฉมใส้ Taco ของ Mexican เป็นเมนูอาหารถูกปากคนไทยอย่างเรากัน

เครื่องปรุง


  • เนื้อหมูสันในบดหรือหั่นชิ้นพอคำ  1 ถ้วย 
  • กระเทียมสับ 4 กลีบ
  • ผงสำหรับทำทาโก้ 2 ชต
     
  • ผักกาดแก้วล้างสะอาดเด็ดเป็นใบ ๆ   
  • หอมใหญ่ซอยเป็นเส้น ๆ 1 หัวใหญ่
  • มะเขือเทศผ่าครึ่ง  10 ลูก
  • พริกหวานสีเหลืองหรือแดงหรือเขียวตามชอบหั่นชิ้นสี่เหลี่ยม 1 ลูก 
  • น้ำเปล่าเล็กน้อย
  • น้ำมันพืช 2 ชต 
วิธีทำ

1.ผัดกระเทียมพอหอม ใส่เนื้อหมูลงผัดให้สุก 
2.เติมผงทำทาโก้  พริกหวาน หอมใหญ่ มะเขือเทศ ผัดให้เข้ากัน เติมน้ำพอขลุกขลิก 
3. ปิดไฟ ตักใส่จานที่รองด้วยผักกาดแก้ว พร้อมเสิร์ฟ




pic.from groupon.ie

อันนี้ฝีมือเราเอง



วันจันทร์ที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2556

ข้าวต้มปลาเก๋า






                              
                            วันนี้ได้เนื้อปลาเก๋าแล่มา ตั้งใจจะทำข้าวต้มปลาเก๋า เป็นอาหารจานเดียวสำหรับมื้อเย็น


เครื่องปรุง

1. ข้าวสวย
2. เนื้อปลาเก๋าหั่นชิ้นพอคำ
3. รากผักชี
4. กระเทียมเจียว
5. พริกไทยป่น
6. ขึ้นฉ่ายหั่นท่อน
7. น้ำสะอาด
8. ข่าสดและข่าป่น
9.เกลือป่น
10.ซีอิ๊วขาว
11.ตังฉ่าย
12.กระดูกหมูซุป 2 ก้อน
13.เห็ดหอมแช่น้ำให้นิ่ม ล้างสะอาด ผ่าครึ่งหรือผ่าสี่
     

น้ำจิ้มปลา

   เต้าเจี้ยว ขิงซอย พริกขี้หนูซอย น้ำส้มสายชู น้ำตาลทรายนิดหน่อย ผสมรวมกัน

วิธีทำ

1. ต้มน้ำ ใส่ข่าสดลงไป 3-4 ท่อน ใส่ กระดูกซุป รากผักชี กระเทียมเจียว พริกไทยป่น
2. พอน้ำซุปเริ่มหอม  ใส่เห็ดหอม ตามด้วยเนื้อปลาเก๋า ห้ามคนเด็ดขาด เพราะจะทำให้คาว
3. พอเนื้อปลาสุก ตักขึ้นพักไว้
4. ใส่ข้าวสวยลงไป (ต้องทานทันทีที่เสร็จ เดี๋ยวข้าวจะอืด หากยังไม่ทานใช้วิธีแยกน้ำซุปกับข้าว)
5. ปรุงรสด้วยเกลือป่น  ซีอิ๊วขาว หากไม่เข้มข้นอาจหย่อนซุปไก่ก้อน 1 ก้อนได้
6. เวลาจะทาน ตักข้าวต้มใส่ชาม โรยด้วยเนื้อปลาเก๋า ตังฉ่าย ขึ้นฉ่าย ข่าป่น เสิร์ฟกับน้ำจิ้มเต้าเจี้ยว

สูตรทำข่าป่น

                  นำข่าสดมาฝานบาง ๆ แล้วทุบ ๆ ๆ ในครกให้แหลก  ใส่ในกะทะ คั่วไปมาจนหอมและเป็นสีเหลือง (อย่าให้ไหม้)


A Werewolf Boy








                          ด้วยคำมั่นสัญญาที่ว่า  " Wait for me. I’ll come back for you " นำมาซึ่งภาพยนตร์รักโรแมนติคแสนเศร้าเคล้าน้ำตาของเกาหลี เรื่อง A Werewolf Boy  ที่ออกฉายเรียกน้ำตาและ rating อย่างมากมายเมื่อปีที่แล้ว

                          เป็นเรื่องเล่าของหญิงชราวัยหกสิบ นาม Kim Suni ที่ไปใช้ชีวิตอยู่ที่อเมริกา เป็นเวลานานแสนนานจนลืมสัญญาที่ให้ไว้กับคนคนหนึ่ง เธอกลับมาเกาหลีอีกครั้งหลังจากทราบว่าบ้านเก่าแก่ในชนบทของเธอขายได้แล้ว  



                            47 ปีก่อนหน้า ในปี  1965 Suni  สุขภาพไม่ดี จึงตามแม่ออกไปอยู่ในบ้านชนบทอันโดดเดี่ยว ที่นี่เธอได้พบกับเด็กหนุ่มวัย 19 ท่าทางดุร้ายนอนหมอบอยู่ ตัวร้อนจัด กรุ๊ปเลือดของเขาไม่สามารถระบุได้ พูดและอ่านหนังสือไม่ได้เลย เธอและแม่จึงดูแลเขาโดยตั้งชื่อให้ว่า Chul-soo



                               Suni จัดการแปลงโฉม Chul-soo สอนการใช้ชีวิตแบบคนธรรมดา สอนอ่านพูดเขียน   Chul-soo  จึงรักและภักดีต่อเธอเชื่อฟังเธอทุกอย่าง จากความใกล้ชิดสนิทสนมทุกวัน ๆ จึงก่อเกิดเป็นความรักขึ้น ท่ามกลางความริษยาของหนุ่ม Ji-tae ที่แอบหลงชอบ Suni และพยายามป่วนจน Chul-soo ต้องกลายกลับมาดุร้ายอีกครั้ง จนทำให้ชาวบ้านหวาดกลัว เพื่อความปลอดภัยของเขา Suni จึงจากไปพร้อมคำมั่นสัญญา ซึ่ง Chul-soo ยึดมั่นและรอคอยอยู่ในใจตราบนานเท่านาน




                             เรื่องจะจบแบบ Happy Ending หรือไม่ เดี๋ยวจะ spoil เกินไปสำหรับคนที่ยังไม่ได้ดู แต่กระซิบว่าแอบปาดน้ำตาสงสารหนุ่มหล่อ  Song Joong-ki และอยากกระซิบแทนว่า
                                                 " Wait for me. I’ll come back for you "

                                                                   อิ อิ อิ




(credit ภาพจาก hancinema ,Vogue)


วันเสาร์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2556

Downton Abbey







                           คงไม่ช้าเกินไปที่จะเขียนถึง Series สัญชาติอังกฤษ เรื่องนี้ Downton Abbey  เพราะเพิ่งจะได้ชมและติดอกติดใจ ต้องนำมาบอกต่อสำหรับคนที่ยังไม่เคยดู

                           Downton Abbey เป็นละครย้อนยุคของอังกฤษ ช่วงสมัย King Georgh V ที่ฉายครั้งแรกเมื่อเดือนกันยายน 2010 และไปดังต่อที่อเมริกาเมื่อมกราคม 2011  ดำเนินเรื่องใน Season 1 กับตระกูลใหญ่ของท่าน Earl Crawley แห่ง Grantham  กับข่าวร้ายในการเสียชีวิตของผู้สืบทอดเนื่องจากการจมลงของเรือไททานิคในปี 1912 ทำให้ต้องตามตัวญาติหนุ่มทนายความจากเมือง Manchester ผู้ที่จะมาสืบทอดทรัพย์สมบัติแทน  และหวังให้แต่งงานกับ Lady Mary ลูกสาวคนโตของตระกูล (เงินทองจะได้ไม่ไปไหน เพราะกฎหมายอังกฤษยุคนั้นให้ทายาทชายเท่านั้นที่จะสามารถสืบทอดสมบัติ) ส่วน Season 2 จะมีเรื่องของสงครามโลกครั้งที่ 1 เข้ามาเกี่ยวข้อง และการเป็นอิสระของชาวไอริส มาเป็นพล็อตเรื่องของ Season 3



3สาวสวยแห่งตระกูล Grantham
                           
                              นอกจากความยุ่งวุ่นวายในสมบัติของเจ้านายแล้ว เรื่องนี้ยังเผยให้เห็นความวุ่นวาย การอิจฉาริษยาแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น การซุบซิบนินทานาย ของเหล่าคนรับใช้ที่มีเป็นจำนวนมากของตระกูล ได้เห็นถึงยุคโบราณที่ห้องคนรับใช้ต้องอยู่ชั้นบนสุด เดินขึ้นบันไดแคบ ๆ อยู่เป็นสัดส่วน การยุ่งกับการเตรียมสำรับอาหาร การตระเตรียมเครื่องแต่งตัวอันหรูหราและขนบธรรมเนียมของเจ้านาย และอีกมากมายของบ้านหลังใหญ่คนเยอะ



เหล่าคนรับใช้ชายหญิงที่ต้องมีหัวหน้าของแต่ละฝ่าย


คนนี้แหละทายาทและพระเอกของเรื่อง
                             
                            Season 1 มี 7 ตอนจบ  Season 2 และ 3 ที่อังกฤษฉายแล้ว แต่บ้านเรายังไม่มา Season 4 กำลังถ่ายทำ สนุกห้ามพลาดสำหรับคอละคร period  ละครเขาดังขนาดที่ผู้นำสหรัฐและภริยายังติดงอมแงมเลยทีเดียว




                           

วันศุกร์ที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2556

ปลาดุกผัดฉ่า







                           วันนี้มาทำปลาดุกผัดฉ่าเป็นอาหารเย็นกัน

เครื่องปรุง (สำหรับ 6 ที่)
  1. ปลาดุกสดหั่นเป็นท่อน ๆ  4 ตัว ล้างเกลือให้สะอาด
  2. พริกชี้ฟ้าสีแดงสีเขียวหั่นแฉลบ 5 เม็ด
  3. น้ำปลาดี 
  4. กระเทียม    4 กลีบใหญ่
  5. กระชายหั่นฝอย 1 ถ้วย
  6. ใบยี่หร่า 1 ถ้วย
  7. น้ำมันพืช 2 ชต
  8. พริกขี้หนูสด (มากน้อยตามชอบแซ่บ)
  9. น้ำตาลปี๊บ 1 ชต
  10. ใบมะกรูดฉีก 5 ใบ
  11. พริกไทยสด 5-6 ช่อ

วิธีทำ

  1. โขลกกระเทียมกับพริกขี้หนูพอแหลก
  2. ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืช ใส่พริกขี้หนูกับกระเทียมที่โขลกไว้ ผัดให้หอม
  3. ใส่ปลาดุกลงไปผัดพอสุก ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บ น้ำปลาดี  ชิมรสตามชอบ
  4. ใส่กระชาย ใบมะกรูด พริกชี้ฟัา เม็ดพริกไทยสดลงไป ผัดคลุกเคล้าให้เข้ากัน ตบท้ายด้วยใบยี่หร่า
  5. ปิดไฟ ตักใส่จานพร้อมเสิร์ฟกับข้าวสวยร้อน ๆ 

วันพฤหัสบดีที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2556

ครีมสตูว์ลิ้นญี่ปุ่น








                        ไปเจอผงครีมสตูว์สำเร็จรูปของญี่ปุ่น ขายเป็นกล่อง ๆ ใน Supermarket ความที่ชอบของแปลก ๆ เลยลองซื้อมาทำดู

เครื่องปรุง (ทานได้ 6 ที่)

1.ลิ้นหมู(หรือลิ้นวัว)ที่ทำสะอาดแล้ว 2 ชิ้น หั่นเฉลียงพอคำ(ไม่ทานลิ้นเปลี่ยนเป็นหมูหรือไก่หรือเนื้อได้)
2.มันฝรั่งหั่นชิ้นเล็ก  3 หัว
3.หอมใหญ่ซอย 2 หัว
4.แครอทหั่นแว่น 2 หัว
5.น้ำสะอาด
6.เกลือป่น
7.เนยจืด 1 ชต
8.นมสด 1 ถ้วย
9.ผงครีมสตูว์ 1 กล่อง

หน้าตาเจ้าผงครีมสตูว์ มีหลากหลายยี่ห้อ


วิธีทำ

1.ตั้งหม้อเคลือบ ใส่เนยลงไป พอละลาย ใส่หอมใหญ่ แครอท ลิ้นหมูลงผัดพอสุกเหลือง ใส่มันฝรั่งลงผัดคลุกเคล้า
2.เติมน้ำสะอาดพอท่วม เคี่ยวต่อไป 20 นาที ไฟปานกลาง (หมั่นช้อนฟองทิ้งด้วย)
3.หรี่ไฟลงอ่อนสุด ค่อย ๆ เทผงครีมสตูว์ลงไปให้หมด และใช้ทัพพีคนไปด้วยพร้อม ๆ กัน จะสังเกตเห็นน้ำเริ่มข้นเหนียว
4.ตามด้วยนมสด ชิมรส อาจเพิ่มเกลือป่นหรือผงซุปไก่นิดหน่อยได้ พอเปื่อยได้ที่ปิดเตาได้
5.ตักใส่ถ้วย เสิร์ฟกับข้าวสวยหรือขนมปัง